แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีก่อน โจทก์ฟ้องอ้างว่าที่พิพาทมารดาโจทก์ได้มาโดยชนะความจาก ย. โจทก์และมารดาได้ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยเกิน 10 ปี ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทตกกรรมสิทธิแก่โจทก์ ศาลฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเกิน 10 ปีจริงแต่ที่ที่มารดาโจทก์ชนะความหาใช่ที่ ๆ โจทก์ฟ้องไม่ จึงพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดโจทก์จึงนำมาฟ้องจำเลยใหม่ว่า ที่พิพาทในคดีก่อนนั้น โจทก์และมารดาได้ครอบครองมาโดยสงบและเปิดเผยเกิน 10 ปี ขอให้ศาลฟ้องว่าที่เป็นโจทก์ ดังนี้เป็นการฟ้องซ้ำไม่ เพราะคดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าโจทก์ฟ้องกล่าวข้ออ้างโดยเห็นว่าข้อหาไม่ตรงกัน กล่าวคือที่พิพาทไม่ใช่ที่ซึ่งมารดาโจทก์ชนะความตามฟ้อง หาได้พิพากษายกฟ้องในประเด็นที่โจทก์อ้างว่าได้กรรมสิทธิในทางครอบครองไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินโฉนดที่ ๗๓๙ และ ๔๗๙๑ เดิมมีชื่อสมิงโยธาราษฎร์กับนางพุกถือกรรมสิทธิ เมื่อประมาณ ๒๐ ปีเศษมานี้ โจทก์และนางบางมารดาโจทก์ ได้ครอบครองที่ ๒ แปลงนี้โดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ มารดาโจทก์ตายไปแล้ว โจทก์เป็นผู้รับมฤดก จึงขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินทั้ง ๒ แปลงเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยให้การต่อสู้ในข้อเท็จจริง และคัดฟ้องว่าโจทก์เคยฟ้องจำเลยเรื่องกรรมสิทธิที่ดิน ๒ แปลงนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว เป็นการฟ้องซ้ำอีก ก่อนสืบพะยานจำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายว่าจะเป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่ โจทก์,จำเลยรับกันว่า คดีก่อนคือ คดีแพ่งแดงที่ ๓๔/๒๔๙๑ ซึ่งโจทก์,จำเลยเป็นคนเดียวกับคดีนี้ ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ปรากฏตามคดีก่อนว่า คดีโจทก์ฟ้องอ้างว่าที่พิพาทต่อที่ดินโฉนดที่ ๗๓๔ และ ๔๗๙๑ นางบางมารดาโจทก์ได้มาโดยชนะความสมิงโยธาราษฎร์บิดาจำเลย แล้วนางบางมารดาโจทก์กับโจทก์ได้ครอบครอง ถือกรรมสิทธิเป็นเจ้าของตลอดมา ๒๐ ปีเศษแล้ว ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าฝ่ายโจทก์ครอบครองที่พิพาทมาเกินกว่า ๑๐ ปีจริง แต่ฟังว่าที่นั้นไม่ใช่ที่ ๆ มารดาโจทก์ชนะความตามฟ้อง ที่ ๆ ชนะความนั้นอยู่ระหว่างกลาง หาใช่ที่ ๆ โจทก์ฟ้องไม่ จึงพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดชั้นศาลจังหวัด โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ขึ้นใหม่
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ศาลจังหวัดพิพากษาในคดีก่อนโดยยกฟ้องโจทก์เสียนั้น ก็โดยเห็นว่า โจทก์ฟ้องกล่าวข้ออ้างข้อหาไม่ตรงกัน กล่าวคือที่พิพาทไม่ใช่ที่ซึ่งนางบางชนะความตามฟ้องหาได้พิพากษายกฟ้องในประเด็นข้อที่โจทก์อ้างว่าได้กรรมสิทธิในทางครอบครองไม่ จึงยังถือไม่ได้ว่าในคดีก่อนได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในประเด็นดังที่ได้วินิจฉัย โดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีเรื่องหลังนี้โจทก์จึงมีสิทธิฟ้อง.
พิพากษายืน.