แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ก.การที่จำเลยโดดลงจากเรือนพูดว่า แน่รืแล้วต่างก็เข้าต่อสู้กับผู้ตาย ภายหลังที่ผู้ตายร้องท้าจำเลยนั้น เป็นการสมัครใจเข้าต่อสู้ มิใช่เป็นการป้องกันตัว
ข.การที่จำเลยใช้มีดดาบยาว 1 แขน กระโดดลงจากเรือนไปต่อสู้กับผู้ตายและฟันผู้ตายถึง 3 แห่ง แผลที่สำคัญถูกที่คอเกือบขาดนั้น แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ต้องมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา มาตรา 288 ปรมวลกฎหมายอาญา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การต่อสู้ว่ากระทำไปเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลจังหวัดราชบุรีฟังว่า
จำเลยทำไปเพื่อฟ้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงจำเลยตามฟ้องโจทก์ โดยให้จำคุก ๑๕ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า
ข้อเท็จจริงได้ความตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ที่จำเลยฎีกาว่าตอนเกิดเหตุจำเลยมิได้สมัครใจวิวาทกับผู้ตายนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะนายนิตย์พยานจำเลยเบิกความรับว่าผู้ตายร้องท้าว่า หรุ่น เอาหรือวะ จำเลยก็โดยลงจากเรือพูดว่า แน่รึ แล้วต่างก็เข้าต่อสู้กัน จึงฟังได้ว่าจำเลยสมัครใจเข้าต่อสู้กับผู้ตาย ไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่ ? ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า จำเลยใช้มีดดาบยาว ๑ แขน กระโดยลงจากเรือไปต่อสู้กับผู้ตายและฟังผู้ตายถึง ๓ แห่ง แผลที่สำคัญถูกคอเกือบขาด แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย จึงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
แต่ได้ความว่าเกิดเหตุแล้วจำเลยเข้ามอบตัวต่อกำนันเล่าเหตุการณ์ให้ฟังโดยตลอด ประกอบกับผู้ตายได้ท้าทายก่อนมีเหตุบรรเทาโทษ
พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุก ๑๕ ปี ลดโทษตามมาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก ๗ ปี ๖ เดือน
