คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องขอให้แสดงว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันและขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชีนั้น เป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ กำหนดเป็นราคาเงินมิได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อย จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนขอให้ชำระบัญชีจำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และว่าเป็นเจ้าของโรงมหรสพแต่ผู้เดียว เมื่อได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยครอบครองโรงมหรสพใน ฐานะเป็นผู้จัดการของหุ้นส่วนก็เป็นการสมควรที่จะต้องกล่าวคำวินิจฉัยให้แจ้งชัดตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยเองว่า จำเลยครอบครองในฐานะอันใดการกล่าวคำวินิจฉัยเช่นนี้หาใช่เป็นการวินิจฉัยเกินประเด็นไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกกันและให้ตั้งผู้ชำระบัญชีศาลชั้นต้นพิพากษาว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว ทรัพย์สินของหุ้นส่วนเป็นกรรมสิทธิรวม จึงให้บังคับคดีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 โดยให้จัดการประมูลขายหรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน แบ่งให้ผู้ถือหุ้นตามส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตาม ป.พ.พ.มาตรา 1061-1062-1063 ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย.

ย่อยาว

โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมฤดกของนายคร้ามฟ้องว่านายคร้ามกับจำเลยและคนอื่น ได้ตกลงเข้าหุ้นส่วนจัดสร้างโรงมหรสพให้เช่าเพื่อหากำไรแต่มิได้จดทะเบียน บัดนี้นายคร้ามวายชนม์ ถือได้ว่าหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว จึงขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชี
จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่าโรงมหรสพเป็นของจำเลยที่ ๑ แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่ ๒-๓ รับตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โรงมหรสพเป็นทรัพย์กรรมสิทธิรวมของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน ให้จัดการขายเอาเงินมาแบ่งกันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๐๖๑-๑๐๖๒-๑๐๖๓
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เป็นเรื่องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์กำหนดเป็นราคาเงินมิได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้.

Share