คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะขอให้ศาลสั่งอายัติผู้รับซื้อฝากไม่ให้รับไถ่ถอนการขายฝากจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ไม่ได้ เพราะผู้รับซื้อฝากเป็นบุคคลภายนอกเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิจะขอให้ศาลห้ามเป็นการตัดรอนสิทธิที่เขามีอำนาจจะรับเงินของเขาที่ได้เสียไปในการรับซื้อฝากนั้นคืน
และเจ้าหนี้จะขอให้ศาลสั่งยึดสิทธิที่จำเลยมีสิทธิจะไถ่ถอนการขายฝากคืน ก็ไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะขณะนั้นผู้รับซื้อฝากยังไม่ต้องส่งมอบที่ดินและตึกที่ขายฝากมายังจำเลยแต่ประการใด
เจ้าหนี้จะอ้างวิ.แพ่ง ม.282(2) หรือข้ออื่น ๆ มาใช้บังคับไม่ได้ สำหรับมาตรา 310,315 ก็เป็นเพียงวิธีปฏิบัติเมื่อได้มีการยึดแล้วเท่านั้น

ย่อยาว

จำเลยทำยอมใช้หนี้ให้โจทก์แล้วผิดสัญญายอมโจทก์ร้องว่าจำเลยขายฝากที่ดินของจำเลยพร้อมด้วยตึก ๕ ห้อง ราคา ๕๐๐๐๐ บาท แก่นางทองพูนจำเลยมีสิทธิเรียกร้องที่พอจะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ โจทก์ขอให้ศาลสั่งอายัติสิทธิเรียกร้องต่อผู้ซื้อฝาก ห้ามมิให้ผู้ซื้อฝากยอมให้จำเลยใช้สิทธิเรียกร้องต่อผู้ซื้อฝาก ห้ามมิให้ผู้ซื้อฝากยอมให้จำเลยใช้สิทธิไถ่ถอนการขายฝากนี้ และยึดสิทธิการไถ่ถอนจากจำเลยและขายทอดตลาด หรือจำหน่ายสิทธิการไถ่ถอนเพื่อเอาเงินชำระหนี้โจทก์
ศาลชั้นต้นสั่งว่า สิทธิอย่างนี้ไม่เป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามลักษณะที่จะบังคับได้ตาม วิ.แพ่ง ม.๒๘๒ ให้ยกคำร้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การสั่งอายัติผู้รับซื้อฝากไม่ให้รับไถ่ถอนการขายฝากจากจำเลยนี้โจทก์ขอไม่ได้เพราะผู้รับซื้อฝากเป็นบุคคลภายนอก โจทก์ไม่มีสิทธิจะขอให้ศาลห้ามเป็นการตัดรอนสิทธิที่เขามีอำนาจจะรับเงินของเขาที่ได้เสียไปในการรับซื้อฝากนั้นคืน
และที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งยึดสิทธิที่จำเลยมีสิทธิจะไถ่ถอนการขายฝากคืน โจทก์ก็ขอไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะขณะนี้ผู้รับซื้อฝากยังไม่ต้องส่งมอบที่ดินและตึกมายังจำเลยแต่ประการใด โจทก์จะอ้าง วิ.แพ่ง ม. ๒๘๒(๒) หรือข้ออื่น ๆ มาใช้บังคับไม่ได้ สำหรับ ม.๓๑๐,๓๑๕ ตามที่โจทก์กล่าวมาในฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะเป็นมาตราบัญญัติวิธีปฏิบัติต่อเมื่อได้มีการยึดทรัพย์แล้ว ศาลล่างพิพากษาชอบแล้วพิพากษายืน

Share