แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านแกล้งจับโจทก์ไปกักขัง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาแกล้งจับโจทก์จึงให้ยกฟ้อง โจทก์จะฎีกาอ้างว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะจับโจทก์ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.78 ในภายหลังมิได้ ในคดีอาญาที่ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงโจทก์ฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านได้บุกรุกขึ้นไปบนเรือนโจทก์ แกล้งจับโจทก์ใส่กุญแจมือและเตะโจทก์ แล้วเอาไปขังไว้ยังสถานีตำรวจ ๑ คืน โดยหาว่าโจทก์เป็นคนร้ายลักสุกร จึงขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นทั้ง ๒ พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ โดยฟังว่าที่จำเลยจับโจทก์ไปกักขังไว้เป็นโดยเข้าใจผิด จำเลยกระทำการตามหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน ไม่มีเจตนาแกล้ง ทั้งไม่ได้เตะหรือทำร้ายโจทก์ประการใด
โจทก์ฎีกาว่าแม้จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านเรื่องชนิดนี้จำเลยก็ไม่มีอำนาจจับโจทก์ได้เว้นแต่จะมีหมายจับก่อน เมื่อจำเลยไม่มีอำนาจแล้วการที่จำเลยจะแกล้งหรือไม่ ๆ สำคัญ จึงควรมีผิดตาม ม.๒๗๐
ศาลฎีกาตัดสินว่าเรื่องนี้โจทก์ฟ้องตั้งประเด็นว่าจำเลยจับโจทก์โดยแกล้ง ฉะนั้นโจทก์จะมากล่าวอ้างประเด็นเป็นข้อกฎหมายใหม่ในภายหลังว่าจำเลยไม่มีอำนาจจับโจทก์ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๗๘ ไม่ได้จึงพิพากษายืน