คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยหลอกลวงให้โจทก์เซ็นชื่อในหนังสือฉะบับหนึ่งภายหลังปรากฎว่า หนังสือนั้นเป็นใบรับเงิน ขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือแต่โจทก์กลับเบิกความปฏิเสธหนังสือนั้นว่า ไม่ใช่ลายเซ็นชื่อของโจทก์ที่เซ็นไว้ ดังนี้ ถือว่าหนังสือนั้นต่างรายคนละฉะบับกับที่โจทก์ฟ้อง ถ้าจะถือว่าเป็นฉะบับที่โจทก์ฟ้อง ก็ต่างกับคำบรรยายฟ้องของโจทก์ และโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง จะลงโทษจำเลยมิได้.

ย่อยาว

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเขียนข้อความ ซึ่งมิใช่ความจริงขึ้นและหลอกลวงให้โจทก์ลงชื่อในหนังสือที่จำเลยเขียนไว้นั้น โจทก์ได้ลงชื่อให้ ภายหลังปรากฎว่า เป็นใบรับเงิน ๑๖๐๐ บาทว่าจำเลยได้ใช้หนี้ค่าข้าวเปลือกที่ค้างให้แก่โจทก์แล้ว โจทก์จึงฟ้องว่าหนังสือนั้นเป็นหนังสือปลอม ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๔,๒๒๒(๑),๒๒๓,๒๒๔ จำเลยให้การปฏิเสธและต่อสู้ว่า ไม่ใช่หนังสือปลอม
ในวันพิจารณาจำเลยได้ส่งหนังสือนี้ต่อศาลตามโจทก์อ้าง ทนายโจทก์ได้ตรวจดูแล้ว รับรองว่าใช่ที่อ้าง ศาลหมาย ก.ไว้ ครั้นเวลาสืบพะยานโจทก์กลับเบิกความปฏิเสธหนังสือหมาย ก. ว่า ไม่ใช่ลายเซ็นชื่อของโจทก์ที่เซ็นไว้
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยไม่ผิดฐานฉ้อโกง ส่วนหนังสือหมาย ก. นั้นโจทก์จะได้เซ็นชื่อให้ไว้ หรือไม่ได้เซ็นให้ไว้ จำเลยเซ็นปลอมขึ้นเองทั้งฉบับก็ดี ไม่เป็นข้อสำคัญ เมื่อจำเลยเขียนข้อความปลอมขึ้น ก็ถือว่าจำเลยปลอมขึ้นทั้งฉะบับ จำเลยผิดฐานปลอมหนังสือตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๒๒(๑),๒๒๔ จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ข้อหาฐานฉ้อโกงให้ยก
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า หนังสือหมาย ก.ไม่ใช่ฉบับที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ลงโทษฐานปลอมหนังสือตามฟ้องไม่ได้ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องปล่อยจำเลย
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือหมาย ก. ไม่ใช่หนังสือที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลอม และกลายเป็นต่างฉบับต่างรายกันไป ถ้าจะถือว่าหนังสือหมาย ก. เป็นเอกสารที่โจทก์ฟ้องว่าปลอม โดยทำปลอมขึ้นทั้งฉบับ ตลอดทั้งลายเซ็นชื่อของโจทก์ด้วย ก็ต่างกับคำบรรยายฟ้องของโจทก์ เป็นคนละเรื่องและเรียกได้ว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง จะลงโทษจำเลยมิได้
พิพากษายืน.

Share