คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขับรถยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเมื่อถนนยังมีช่องว่างพอที่จะขับแซงได้สะดวก และก่อนแซงก็ได้ให้แตรสัญญาณขอทาง เมื่อรถข้างหน้าเปิดทางให้แล้วจึงแซง ทั้งจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วธรรมดา การที่ผู้ตายเดินเข้าหารถจำเลยจึงถูกรถจำเลยชน ทั้ง ๆ ที่จำเลยได้หักรถหลบไปโดนรถคันอื่นแล้วยังไม่พ้นเช่นนี้ จะถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจขับรถยนต์ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง เป็นเหตุให้ชนนายกิมโดยได้รับบาดเจ็บถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๑ ให้จำคุกไว้ ๒ ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่มีความผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ขณะจำเลยขับแซงขึ้นหน้ารถโดยสาร ผู้ตายกำลังเดินอยู่บนขอบหญ้านอกผิดจราจร ในถนนส่วนนี้เป็นผิวจราจรยังมีช่องว่างอยู่อีกมากพอที่จะขับแซงได้ โดยสะดวก ก่อนจะแซงจำเลยได้ให้แตรสัญญาขอทาง เมื่อรถโดยสารข้างหน้าแอบชิดซ้ายเปิดทางให้แซงได้แล้ว จำเลยจึงแซง ทั้งจำเลยได้ขับรถมาด้วยความเร็วตามธรรมดา เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอตามสมควรแล้ว จะเรียกว่าจำเลยกระทำการโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังหาได้ไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์

Share