คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไม่ว่ามีฝิ่นหรือมูลฝิ่นอันผิดด้วยกฎหมายไว้ในครอบครองมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ฝิ่นบัญญัติให้ถือเอาราคาฝิ่นที่รัฐบาลขายตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับเสมอไป
อ้างฎีกาที่ 790/2474,+23/2476และ389/2476
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้วัตถุ+เจือปนฝิ่นของรัฐบาลทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเอาวัตถุอื่นเจือปนจริงแต่ไม่แน่ว่าเจือปนกับฝิ่นหรือมูลฝิ่นดังนี้ ไม่เรียกว่าทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับอนุญาตตั้งร้านจำหน่ายฝิ่น ใช้วัตถุอื่นเจือปนฝิ่นของรัฐบาลเป็นการปรุงฝิ่นขึ้นใหม่ให้ผิดจากสภาพเดิม ขอให้ลงโทษ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเอาฝิ่นเจือปนกับวัตถุของกลางแต่ทางพิจารณาได้ความว่ามีฝิ่นหรือมูลฝิ่นเจือปนอยู่ด้วย ซึ่งไม่แน่ว่าเป็นฝิ่นเจือปนดังฟ้องเพราะอาจเป็นมูลฝิ่นก็ได้ เมื่อเช่นนี้ต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ตาม ม.๑๙๒ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามคำพะยานโจทก์คงเป็นอันฟังได้ว่าวัตถุของกลางนี้มีฝิ่นเจือปนดังโจทก์หา ส่วนฝิ่นที่เจือปนนั้นจะเป็นฝิ่นสุกที่ยังไม่ได้สูบหรือมูลฝิ่นก็คงเป็นธาตุฝิ่นอยู่นั่นเอง และการลงโทษผู้กระทำผิดที่ใช้ฝิ่นหรือมูลฝิ่นเจือปนวัตถุอื่นนั้นตาม พ.ร.บ.ฝิ่น ม.๕๓ ก็เอาราคาฝิ่นเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับเหมือนกัน ไม่ได้แยกเป็นราคาฝิ่นหรือมูลฝิ่น ทั้งโจทก์อ้าง ม.๒๒,๓๒,๔๗,๕๘ ซึ่งบัญญัติห้ามเรื่องฝิ่นและมูลฝิ่นเจือปนมาในฟ้องด้วยจึงเห็นว่าข้อเท็จจริง ที่ได้ความตามทางพิจารณาไม่ต่างกับในฟ้อง จำเลยต้องมีผิดฐานมีฝิ่นหรือมูลฝิ่นเจือปนตาม พระราชบัญญัติฝิ่น ส่วนที่ศาลชั้นต้นให้เอาราคามูลฝิ่นเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับนั้นยังคลาดเคลื่อน เพราะ ม.๕๓ บัญญัติให้ถือเอาราคาฝิ่นที่รัฐบาลขายในท้องที่เวลานั้นเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับเสมอไป ไม่ว่าเป็นฝิ่นหรือมูลฝิ่น ตามนัยฎีกาที่ ๗๙๑/๒๔๗๔ ที่ ๑๒๓/๒๔๗๖ และที่ ๓๘๙/๒๔๗๖ จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๒,๓๒,๔๗,๕๘ ให้เอาราคาฝิ่นตำลึงละ ๑๕ บาดปรับจำเลย ๔ เท่า ฝิ่นของกลางให้ริบ

Share