คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายล้วงกระเป๋าลักปากกาหมึกซิมของผู้เสียหายถูกจับคาหนังคาเขา การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสำเร็จ มิใช่เป็นขั้นพยายามกระทำความผิด

ย่อยาว

เรื่อง ลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๗ ธ.ค.๙๙ เวลากลางคืน จำเลยมีหลาวทองเหลืองเป็นอาวุธได้บังอาจลักปากกาหมึกซึมยึ่ห้อป๊ากเกอร์ปลอกทอง ๑ ด้ามราคา ๒๕๐ บาทของนายนิตย์หรือมงคล หิรัญรัตน์ ไปเหตุเกิดในงานฉลองรัฐธรรมนูญ ตำบลลุมพินี จังหวัดพระนคร จำเลยเคยต้องคำพิพากษาลงโทษจำคุกตาม+แดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษยังไม่เกิน ๕ ปีไม่เข็ดหลาบ ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.๒๙๓,๗๒ พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.๓,+ ประมวลกฎหมายอาญา ม.๓๓๕,๙๒ คืนปากกาแก่ผู้เสียหายและริบหลาวทองเหลือง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลอาญาเชื่อว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงดังโจทก์หาและจำเลยเคยต้องคำ+พิพากษาศาลมาดังใบแดงแจ้งโทษ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๒๙๓ และประมวลกฎหมายอาญา ม.๓๓๕ อาศัยประมวลกฎหมายอาญา ม.๓ ให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๒๙๓ ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลย จำคุก ๓ ปี ปากกาคืนผู้เสียหาย หลาวของกลางริบ ข้อที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษนั้นไม่เพิ่มโทษให้ตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ.๒๔๙๙ ม.๓
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จเพียงพยายามกระทำความผิด
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นคนร้ายล้วงกระเป๋าลักปากกาหมึกซิมของนายนิตย์ผู้เสียหาย ถูกจับคาหนังคาเขา การกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จ มิใช่เพียงขั้นพยายามกระทำความผิด จึงพิพากษายืน

Share