คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 217/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า วิสาสะ พจนานุกรมวิเคราะห์ศัพท์ว่า ความคุ้นเคย สนิทสนม การถือว่าเป็นกันเอง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังโจทก์ได้ถือวิสาสะใช้ทางเดินผ่านที่จำเลยทางพิพาทก็ไม่ตกเป็นภาระจำยอมตามกฎหมาย

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และบุคคลอื่นได้ใช้ทางเดินเข้าออกระหว่างที่ดินของโจทก์และที่ดินของจำเลยออกไปสู่ทางสาธารณะเพื่อประกอบการทำนาและกิจการอื่นมาเกินกว่า ๑๐ ปีแล้ว จำเลยได้ล้อมรั้วปิดทาง ไม่ให้โจทก์ใช้เดินเข้าออกสู่ทางสาธารณะ จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยรื้อรั้วเปิดทางเดินนั้นและห้ามไม่ให้จำเลยเกี่ยวข้องต่อไป
จำเลยให้การว่า ทางเดินตามฟ้องไม่เคยมี แต่โจทก์เคยขออาศัยเดินเป็นครั้งคราว โดยจำเลยทำประตูรั้วปิดเปิดไว้เพื่อสงวนสิทธิ และในฤดูทำนาจำเลยได้ทำนาลงบนทางเดินนั้นทุกปีมา ทางนั้นจึงไม่ใช่ภาระจำยอม
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ได้ถือวิสาสะใช้ทางพิพาทเดินผ่านที่ดินของจำเลยมาราว ๔๐ ปี ไม่ใช่โดยการขออาศัยจากจำเลย ทางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอม พิพากษาห้ามไม่ให้จำเลยขัดขวางโจทก์ในการใช้ทางพิพาท
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลยฎีกาศาลชั้นต้นรับฎีกาเฉพาะข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การได้สิทธิในทางเดินตามป.พ.พ. มาตรา ๑๔๐๑ ต้องเป็นการใช้สิทธินำเอากรรมมาสู่ภารยทรัพย์โดยได้ทำมาโดยปรปักษ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๘๒ การที่โจทก์ได้ถือวิสาสะใช้ทางพิพาทเดินผ่านที่ดินของจำเลย เป็นการแสดงว่ากระทำโดยฉันท์มิตร ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยปรปักษ์ แม้โจทก์จะใช้ทางพิพาทเดินผ่านที่ดินของจำเลยมากกว่า ๑๐ ปีแล้ว ทางพิพาทก็ไม่ตกเป็นภาระจำยอม พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share