คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกันโดยกำหนดจะโอนทะเบียนภายในเดือนมีนาคมครั้นถึงกำหนดแทนที่ผู้ซื้อจะขอให้ผู้ขายโอนทะเบียนที่ดินให้ตนตามสัญญากลับไปขอให้ผู้ขายจัดการแบ่งแยกที่ดินจนพ้นตามสัญญาก็ไม่ไปจัดการโอนทะเบียนดังนี้ ไม่เรียกว่าผู้ขายประพฤติผิดสัญญา ผู้ขายมีสิทธิเลิกสัญญาได้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กันโดยกำหนดจะโอนทะเบียนภายในเดือนมีนาคม ในระหว่างนั้นผู้ซื้อขอให้ผู้ขายแบ่งแยกที่ดินเพื่อขายให้แก่คนภายนอก ผู้ขายก็จัดทำให้ดังนี้ ไม่เรียกว่าผู้ขายยอมสละสิทธิในประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาในสัญญาจะซื้อขายนั้น

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดินให้แก่กันไว้ฉะบับหนึ่งใจความว่า จำเลยจะขายที่ดินให้โจทก์ ๑ แปลง เป็นเงิน ๕,๕๕๐ บาท โจทก์ได้วางมัดจำไว้แล้ว ๑๐๐ บาท กำหนดการโอนทะเบียนขายที่รายนี้แล้วแต่โจทก์จะเรียกร้องภายในเดือนมีนาคม ๒๔๗๙ เมื่อทำสัญญากันแล้วโจทก์ได้ขอให้จำเลยแบ่งแยกโฉนดโอนขายให้ผู้อื่นไป ๒ แปลง ครั้นปลาย พ.ศ.๒๔๗๙ จำเลยได้เตือนให้โจทก์ชำระเงินและรับโอนที่ไปโจทก์ขอผัดแล้วโจทก์ไปขอให้จำเลยแบ่งแยกโฉนดอีก ๔ แปลงจำเลยจึงให้เจ้าพนักงานรังวัดแบ่งแยกโฉนดเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๔๗๙ ครั้นวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๔๘๐ จำเลยเห็นว่าพ้นกำหนดสัญญาแล้วจึงให้ทนายบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์ ๆ จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายและขอมัดจำคืน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินว่าที่โจทก์คัดค้านว่าโจทก์ไม่ผิดสัญญาเพราะโจทก์ได้ไปขอให้จำเลยแบ่งแยกโฉนดในระหว่างเดือนมีนาคม ๒๔๗๙ นั้น เห็นว่าสัญญาได้กล่าวไว้ชัดเจนว่าให้โอนทะเบียนขายที่ดินกันในเดือนมีนาคม ไม่ใช่ให้แบ่งแยกที่ดินในกำหนดนั้น และการที่จำเลยจัดการแบ่งแยกที่ดินตามโจทก์ขอนั้นหาใช่เป็นการที่จำเลยยอมสละสิทธิในประโยชน์แห่งเงื่อนไขเวลาดังโจทก์ฎีกาไม่ ที่ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ตัดสินยืน

Share