คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านได้เข้าค้นบ้านโจทก์ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เฝ้าบ้าน และการเข้าค้นโดยไม่มีหมายค้นนี้ กระทำไปโดยไม่มีเหตุแสดงให้เห็นว่า กว่าจะเอาหมายค้นมาได้ ของกลางจะถูกโยกย้ายไปเสีย จึงไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะทำการค้นได้โดยไม่ต้องมีหมาย ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 92(4) การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 329

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นประทับฟ้องฉะเพาะฐานบุกรุก โดยโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปตรวจค้นบ้านเรือนของโจทก์โดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตาม มาตรา ๓๒๙ ก.ม.ลักษณะอาญา จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธว่า กำนันซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลยสั่งให้จำเลยไปจับเสื้อผ้าของจำเลยที่ ๒ ,๓ ที่ถูกคนร้ายลักไป และตกอยู่ที่บ้านนางแกวด จำเลยที่ ๒, ๓ ปฏิเสธต่อสู้ว่า บ้านที่โจทก์หาบุกรุนนี้เป็นของนางแกวด วันที่โจทก์หา จำเลยเห็นผ้าของจำเลยบางอย่างไปอยู่ที่บ้านนั้น จึงขอร้องกำนันและจำเลยที่ ๑ ผู้ใหญ่บ้านไปเป็นพยาน ไปดูแล้วเห็นเสื้อผ้าของจำเลย ๆ จึงขอร้องให้กำนันและจำเลยที่ ๑ จับผ้าของกลาง
ศาลชั้นต้นฟังว่า บ้านเป็นของโจทก์ แต่จำเลยมิได้กระทำโดยบังอาจ และกระทำไปโดยมีเหตุอันสมควร ไม่มีผิดฐาน บุกรุก พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๒๙ จำคุกจำเลยคนละ ๖ วัน ปรับคนละ ๒๐ บาท ให้ยกโทษจำเลย
จำเลยทั้ง ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่า จำเลยได้เข้าค้นบ้านโจทก์ ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เฝ้าบ้าน และการเข้าค้นโดยไม่มีหมายค้นนี้ กระทำไปโดยไม่มีเหตุแสดงให้เห็นว่า กว่าจะเอาหมายค้นมาได้ ของกลางจะถูกโยกย้ายไปเสีย จึงไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะทำการค้นได้โดไม่ต้องมีหมาย ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๙๒(๔) การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. ๓๒๙
พิพากษายืน

Share