คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับเงินจากโจทก์ แล้วออกตั๋วแลกเงินให้ โจทก์ไปเก็บเงินตามตั๋วแลกเงินไม่ได้ และทำคำคัดค้านไว้ จึงมาฟ้องเรียกเงินคืนดังนี้ เป็นการฟ้องเรียกเงินคืนตามมูลหนี้เดิมคดีเข้าอยู่ในมาตรา 1005 ต้องบังคับให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับเงินจากโจทก์แล้วออกตั๋วแลกเงินให้ปรับเงินที่ยี่ห้องเฮงหยูที่สิงคโปร์ โจทก์ไปเก็บเงินแล้ว ยี่ห้อเฮงหนูไม่จ่ายเงินให้ โจทก์ทำคำคัดค้านไว้แล้ว จึงขอให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า ตั้งแต่วันทำคำคัดค้านจนถึงวันฟ้องเกิน ๑ ปี คดีขาดอายุความตามมาตรา ๑๐๐๒
ศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โดยอ้างว่าคดีขาดอายุความตาม มาตรา ๕๑๔
แต่ศาลฎีกาย้อนสำนวนให้พิจารณาใหม่
ศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์พิจารณาใหม่ แล้วพิพากษาให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่า ตามฟ้องของโจทก์ เห็นได้ว่าเป็นการฟ้องเรียกเงินคืนตามมูลหนี้เดิม มิให้ฟ้องเรียกเงินตามตั๋วแลกเงินหรือลาภมิควรได้ เมื่อจำเลยรับว่าเงินไปจากโจทก์ และโจทก์มิได้รับเงินตามตั๋วจริง ก็ต้องปรับด้วยมาตรา ๑๐๐๕ เมื่อไม่ถึง ๑๐ ปีโจทก์ก็ฟ้องได้ จึงพิพากษายืน

Share