แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ ป.พ.พ.มาตรา 456 บัญญัติว่า ให้ทำหลักฐานเป็นหนังสือเท่านั้น มิได้บัญญัติให้จำต้องจดทะเบียน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำหนังสือขายห้องแถวสองห้องของโจทก์ให้แก่จำเลย โดยทำหนังสือกันเอง จำเลยได้ชำระเงินให้นางส่วนแล้ว การขายห้องแถวนี้จำเลยตกลงจะเลี้ยงดูโจทก์ แต่จำเลยผิดสัญญา โจทก์จึงได้บอกเลิกสัญญาซื้อขายกับจำเลย สัญญานี้ไม่ได้จดทะเบียนจึงตกเป็นโมฆะ จึงขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารและเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การว่าไม่มีการบอกเลิกสัญญา โจทก์บิดพริ้วไม่ไปจดทะเบียนซื้อขายต่อเจ้าพนักงาน จำเลยไม่ได้ผิดสัญญา เมื่อคู่ความวางสัญญาฉะบับพิพาท โจทก์ไม่สืบพะยาน ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานจำเลย แล้วพิพากษาว่า สัญญาฉะบับนี้ไม่ตกเป็นโมฆะ โจทก์มิได้สืบพะยานว่าจำเลยกระทำผิดสัญญาอย่างใด พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า เรื่องนี้จัดเป็นอสังหาริมทรัพย์ ฝ่ายใดจะรับซื้อหรือจะขายต้องจดทะเบียนตาม ป.พ.พ.มาตรา ๔๕๖ มิฉะนั้นตกเป็นโมฆะ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในเรื่องสัญญาจะขายอสังหาริมทรัพย์นี้ ป.พ.พ.มาตรา ๔๕๖ บัญญัติว่าให้ทำหลักฐานเป็นหนังสือเท่านั้น มิได้มีบัญญัติให้จำต้องจดทะเบียน พิพากษายืน