แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องเดิมขอให้บังคับจำเลยเป็นเงินเพียง 2000 บาท และได้เสียค่าขึ้นศาลในจำนวนทุนทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ต่อมาแม้โจทก์จะได้ขอเพิ่มเติมฟ้องให้ศาลบังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และศาลชั้นต้นอนุญาตตามคำขอก็ดี ดังนี้ ยังไม่ถือว่าทุนทรัพย์แห่งคดีได้เพิ่มขึ้นเพราะมิได้มีการเรียกค่าธรรมเนียมศาลเพิ่มขึ้นตามมาตรา 150 ป.วิ.แพ่ง
การที่จะบังคับให้จำเลยชำระค่าเสียหายอันต่อเนื่อง คำนวนถึงวันฟ้องจึงถึงวันชำระเสร็จตามคำพิพากษานั้น แม้โจทก์จะมิได้ขอมา เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะพิพากษาให้ก็ได้
คำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในกรณีที่ขอเพิ่มค่าเสียหาย แม้ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต จึงต้องฟังว่า คดีฟ้องหากันด้วยทุนทรัพย์ตามฟ้องเดิม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ทางเดินตามแผนที่ท้ายฟ้องเป็นทางเดินมาแต่ดึกดำบรรพ์ ซึ่งโจทก์และคนอื่นใช้เป็นทางเดินเข็ญข้าวกับใช้เป็นทางเกวียน ทางเลื่อน จำเลยได้ขุดคูปิดทางนี้เสีย ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่รายพิพาทเป็นทางเดินให้จำเลยถมทางเดินที่จำเลยขุดให้ดีดังเดิม ถ้าไม่สามารถทำได้ ให้จำเลยใช้ค่าถมทางให้ดีดังเดิม ๒๐๐ บาท และค่าเสียหายอีก ๑๘๐๐ บาท จำเลยให้การว่า ทางอยู่ในที่ของจำเลย โจทก์เป็นแต่อาศัยเดิน เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่า โจทก์มีอาชีพทางค้าข้าว ต้องขาดประโยชน์เดือนละ ๕๐๐ บาท ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๕๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนคดีถึงที่สุด จำเลยคัดค้านว่าไม่ควรรับคำร้องเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์ และว่าโจทก์มิได้เสียค่าขึ้นศาลในจำนวนที่ขอเพิ่ม
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำร้องเพิ่มเติมฟ้องเพียงเรียกค่าเสียหายเพิ่มขึ้น จึงอนุญาต และฟังว่า ทางรายพิพาทเป็นสาธารณะ พิพากษาให้จำเลยเปิดทาง และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๔๐๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ทางรายพิพาทเป็นทางสาธารณะเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่เห็นว่า โจทก์จะเพิ่มเติมฟ้องไม่ได้ เพราะขัดกับ ป.วิ.แพ่ง มาตรา ๑๘๐ พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๑๘๐๐ บาท นอกนั้นยืนตาม
จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริง โดยอ้างว่า ศาลชั้นต้นบังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๔๐๐๐ บาท จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกิน ๒๐๐๐ บาท จำเลยมีสิทธิฎีกาได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเป็นเงินเพียง ๒๐๐๐ บาท และได้เสียค่าขึ้นศาลมาในจำนวนทุนทรัพย์ดังกล่าวแล้ว แม้โจทก์จะได้ขอเพิ่มเติมให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตั้งแต่วันฟ้องจนคดีถึงที่สุด และศาลชั้นต้นได้อนุญาตตามคำขอนั้นก็ดี ก็ยังถือไม่ได้ว่าทุนทรัพย์แห่งคดีนี้ได้เพิ่มขึ้น เพราะมิได้มีการเรียกค่าธรรมเนียมศาลเพิ่มขึ้นตามมาตรา ๑๕๐ วรรค ๓ แห่ง ป.วิ.แพ่ง และการที่จะบังคับให้จำเลยชำระค่าเสียหายอันต่อเนื่องคำนวนถึงวันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จตามคำพิพากษานั้น แม้โจทก์จะมิได้ขอมาศาลจะพิพากษาให้ก็ได้ และคำขอเพิ่มเติมฟ้องศาลอุทธรณ์ก็ไม่อนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง จึงเป็นคดีที่ฟ้องหากันด้วยทุนทรัพย์ไม่เกิน ๒๐๐๐ บาท ฎีกาจำเลยต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง.มาตรา ๒๔๘.