คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทบันยายความผิดเปน 2 ข้อ โดยมิได้ระบุที่เกิดเหตุไนฟ้องเหล่านั้น แต่มาระบุที่เกิดเหตุไนพายหลังบันยายฟ้องตามลำดับย่อมเปนฟ้องที่ชอบด้วยกดหมายแล้ว

ย่อยาว

โจทฟ้องว่า
๑. เมื่อระหว่างเวลาพระอาทิจตกของวันที่ ๔ เมสายน ๒๔๘๒ จำเลยนี้กับนายทองจำเลยไนคดีอาณาหมายเลขแดงที่ ๒๓๘/๒๔๘๒ กับพวกที่ยังหลบหนี ได้ยังอาดสมคบกันลักกะบือของนายหมื่น สมมิไชยไป ๑ ตัวราคา ๓๕ บาท
๒. ครั้นวันที่ ๙ เดือนเดียวกันเวลากลางวัน จำเลยได้สมคบกันลอบลักค่ากะบือที่จำเลยกับพวกลักมาดังกล่าวไนข้อ ๑ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน.
เหตุทั้งนี้เกิดทีตำบนท่าน้าวและตำบนกองควาย อำเพอเมืองน่าน จังหวัดน่านขอไห้ลงโทส.
สาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ประทับฟ้องฉเพาะข้อ ๒ ส่วนฟ้องข้อ ๑ ของโจทไม่ได้บันยายว่าเหตุเกิดที่ตำบนได จึงไห้ยกเสีย.
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์วินิฉัยว่า การพิจารนาฟ้องจำต้องพิจารนาฟ้องทั้งหมดรวมกันมิไช่พิจารนาแต่ฉเพาะทางได และการแปลตรงตามตัวหนังสือโดยไม่พิจารนาถึงความประสงค์อาดผิดความจิงได้ เพราะกะบือตัวเดียวกันไม่ควนจะถูกลักและถูกค่าไนที่สองตำบนไนเวลาเดียวกันได้ พิจารนาถึงความประสงค์ประกอบด้วย ควนจะเปนลักตำบนหนึ่ง ค่าอีกตำบนหนึ่ง ตำบนไดถูกลักตำบนไหน ถูกค่าไม่ได้กล่าวไว้ พิจารนาตามลำดับก็น่าจะเปนตำบนแรกเปนตำบนที่ถูกลัก ตำบนที่กล่าวถัดมาเปนตำบนที่กะบือถูกค้า สรุปความพอกล่าวได้ว่าโจทได้ระบุสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องข้อ ๑ ไว้แล้ว ไม่ขาดตกบกพร่อง จึงพิพากสาไห้สาลชั้นต้นรับฟ้องข้อ ๑ ไว้พิจารนา.
จำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่าฟ้องฉบับนี้ทำไห้เข้าไจว่าโจทได้ระบุที่เกิดเหตุไว้แล้วดังคำวินิฉัยสาลอุธรน์ จึงพิพากสายืน.

Share