แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ภรรยาได้ประกาศรับมฤดกที่ดินของสามีแล้วโอนขายให้บุคคลอื่น แม้จะปรากฎว่าภรรยามิได้จดทะเบียนสมรสก็ดี แต่ได้มีการไหว้ผีตามประเพณี และอยู่ร่วมกันโดยเปิดเผยจนมีบุตรด้วยกัน 3 คน การที่โอนขายให้แก่บุคคลผู้นั้น ก็เนื่องจากสัญญาเดิมที่สามีได้ทำไว้ ซึ่งเป็นการชอบด้วยศีลธรรม เมื่อภรรยามาประกาศรับมฤดก โจทก์ก็ไม่มาคัดค้าน ปล่อยให้ภรรยารับมฤดกมาโอนขายแก่บุคคลผู้นั้น ๆ รับซื้อไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน โจทก์จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรม ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 5 จะมาขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายสายพี่ชายโจทก์มีชื่อถือกรรมสิทธิที่ดินนาร่วมกับโจทก์คนละครึ่ง แต่ยังไม่ได้แบ่งกันเป็นส่วนสัด นายสายและภริยาถึงแก่ความตาย ที่ส่วนของนายสายตกได้แก่บุตร คือนายน้อย ๆ ให้จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ทำนาของนายน้อย ต่อมานายน้อยตาย จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นภริยาโดยมิชอบด้วยกฎหมายของนายน้อย ได้สมคบกับจำเลยที่ ๒ ประกาศรับมฤดกในนามของจำเลยที่ ๑ แล้วทำสัญญาซื้อขายให้จำเลยที่ ๒ การกระทำของจำเลยเป็นโมฆะ เพราะทำสัญญาซื้อขายโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าของร่วม ขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ลงชื่อโจทก์รับมฤดก และขับไล่จำเลย จำเลยที่ ๑ ให้การสมฟ้องว่าถูกจำเลยที่ ๒ หลอกลวง จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่าจำเลยได้รับซื้อไว้โดยสุจริต มีค่าตอบแทน และจำเลยได้ใช้สิทธิครอบครองนานเกินกว่า ๑๐ ปี ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ศาลชั้นต้นฟังว่า นายสายขายฉะเพาะส่วนของตนซึ่งแยกปกครองกับโจทก์เป็นส่วนสัดแล้ว หาเกี่ยวกับส่วนที่เป็นของโจทก์ไม่ จึงไม่เป็นโมฆะ พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่านายสายขายนาส่วนของนายสายให้แก่นายมีจำเลยที่ ๒ แต่ทำไม่ถูกแบบ ส่วนในทางครอบครอง จำเลยก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิในทางครอบครองในข้อที่นางปุ่นจำเลยที่ ๑ โอนขายให้นายมีจำเลยที่ ๒ ตอนหลังนางปุ่นไม่มีสิทธิรับมฤดกนายน้อย นายมีรับโอนจากนางปุ่น ก็ไม่มีสิทธิดีกว่านางปุ่น พิพากษากลับ ให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาฟังว่า นายมีไม่ได้กรรมสิทธิในทางครอบครองมาก่อนจดทะเบียนซื้อจากนางปุ่น ส่วนที่นางปุ่นประกาศรับมฤดกนายน้อยแล้วโอนขายให้นายมีจำเลยนั้น แม้นางปุ่นจะมิได้จดทะเบียนสมรสกับนายน้อยก็ดี แต่นางปุ่นได้กับนายน้อยโดยมีการไหว้ผีตามประเพณี และอยู่ร่วมกันโดยเปิดเผย จนมีบุตรด้วยกัน ๓ คน การที่มาโอนขายให้นายมี ก็เนื่องจากสัญญาเดิมที่นายสายทำไว้กับนายมีเป็นการชอบด้วยศีลธรรม เมื่อนางปุ่นมาประกาศรับมฤดก โจทก์ก็ไม่มาคัดค้าน ปล่อยให้นางปุ่นรับมฤดกมาโอนขายให้แก่นายมี ๆ รับซื้อไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน คือให้เงินเพิ่มแก่นางปุ่นอีก ๔๐๐ บาทแล้ว โจทก์จึงกลับมาขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้น ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๕ จะมาขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นไม่ได้
พิพากษกลับ ให้ยกฟ้อง