คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ออกเงินค่าสุรา แต่ผู้ตายเอาเงินนั้นใส่กระเป๋าเสีย กินสุรากันหมดครึ่งขวด ผู้ตายก็กลับ เอาสุราที่เหลือไปด้วย เจ้าของร้านมาทวงค่าสุรา จำเลยบอกว่าได้ออกไปแล้วและอยู่ที่ผู้ตาย เจ้าของร้านให้จำเลยไปตามมาให้ จำเลยตามไปทันผู้ตายและพูดว่าเงินค่าสุรายังไม่ได้ให้เขา ผู้ตายพูดว่า กูไม่ได้เอาเงินของมึงมา ไม่รู้พูดแล้วผู้ตายก็เหวี่ยงขวด สุราตีจำเลย จำเลยหลบ ไม่ถูก ขวดสุราหลุดมือผู้ตายเข้าป่าไป ทันทีนี้จำเลยแทงผู้ตายด้วยกฤชถูกที่กระดูกไหปลาร้าขวา และผู้ตายได้ถึงแก่ความตายได้ถึงแก่ความตายด้วยพิษบาดแผล ดังนี้ถือว่า ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุก่อน ได้ยั่วให้จำเลยบันดาลโทสะ พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยบันดาลโทสะ เพราะถูกผู้ตายข่มเหง อย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยจึงควรได้รับการลงโทษน้อยลงตามมาตรา 72

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยผู้ตายและคนอื่น ๆ กินสุรา อยู่ด้วยกัน ซื้อสุรากิน๑ ขวด จำเลยออก เงิน ๕ บาท เมื่อวางเงินลง ผู้ตายหยิบเงินนั้นใส่กระเป๋ากินสุรากันหมดครึ่งขวด ก็กลับ ผู้ตายเอาสุราที่เหลือไปด้วย เจ้าของร้านสุราทวงค่าสุรา จำเลยบอกว่าได้ออกไป ๕ บาท อยู่ที่ผู้ตาย เจ้าของร้านให้จำเลยไปตามเอามาให้ จำเลยตามไปทันผู้ตายและพูดว่า เงินค่าสุรา ๕ บาท ยังไม่ได้ให้เขา ผู้ตายพูดว่า กูไม่ได้เอาเงินของมึงมาไม่รู้ พูดแล้ว ผู้ตายก็เหวี่ยงขวดสุราตีจำเลย จำเลยหลบ ไม่ถูก ขวดสุรา หลุดมือผู้ตายเข้าป่าไป ทันทีนี้จำเลยแทงผู้ตายด้วยกฤชถูกผู้ตายที่กระดูกไหปลาร้าด้านขวา ต่อมาผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยมีผิดตาม มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒ ซึ่งจำเลยกระทำไปโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมให้จำคุก ๘ ปี ลดโทษตามมาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๔ ปี
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพฤติการณ์ดังกล่าว เพียงพอถือว่าจำเลยบันดาลโทสะเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจึงควรได้รับลงโทษน้อยลงตามมาตรา ๗๒
พิพากษายืน

Share