แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ศาลจ้าวซึ่งมีผู้อุทิศให้บ้างเรี่ยไรเงินซื้อบ้างและได้ขึ้นทะเบียนก่อนออกกฎกระทรวงนั้นอยู่ในความคุ้มครองของรัฐบาล ข้าหลวงประจำจังหวัดมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดูแลศาลจ้าวนั้นได้
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมที่พิพาทเป็นศาลจ้าวอยู่ก่อนประกาศกฎกระทรวงว่าด้วยสถานชะนิดศาลจ้าว ลงวันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๓ โดยที่ดินบางส่วนมีผู้ยกให้และบางส่วนได้ซื้อโดยเงินเรี่ยไร คณะกรมการอำเภอได้จัดการจดทะเบียนเป็นที่ศาลจ้าวไว้แล้ว จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ได้แต่งตั้งให้จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ดูแลรักษา โจทก์จึงมาฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของโจทก์ ห้ามไม่ให้จำเลยเกี่ยวข้องขัดขวาง
ศาลชั้นต้นฟังว่า เป็นที่ศาลจ้าวโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าที่พิพาทนี้เป็นที่ศาลจ้าวและได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ที่ศาลจ้าวนี้จึงต้องอยู่ในความคุ้มครองของรัฐบาล ตามกฎกระทรวงข้อ ๔ และ ข้อ ๘ จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ จึงมีอำนาจตั้งจำเลยที่ ๑ ได้ ส่วนกฎกระทรวงข้อ ๓ และข้อ ๕ เป็นเรื่องที่ศาลจ้าวตั้งอยู่ในที่ดินของเอกชนและเอกชนนั้นอุทิศให้เป็นของศาลจ้าวภายหลังที่ได้ออกกฎกระทรวงนั้นแล้วจึงต้องปฏิบัติตามกฎข้อ ๓ และ ๕ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง