แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย โดยมิได้ชี้ขาดความผิดของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษา ศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่โดยให้ชี้ขาดความผิดของจำเลย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่แล้ว ถ้าคู่ความประสงค์จะอุทธรณ์ ก็ต้องอุทธรณ์ขึ้นมาใหม่ จะอาศัยอุทธรณ์ฉบับเดิมไม่ได้ เพราะอุทธรณ์ฉบับเดิมเป็นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาครั้งแรกของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้แล้ว
ย่อยาว
คดีนี้ ศาลชั้นต้นยกฟ้องสำหรับจำเลยอื่น ส่วนนายบัวจำเลย เห็นว่าทำร้ายนายผันผู้ตายเกินสมควรแก่การป้องกัน มีเหตุควรปราณีตามมาตรา ๕๓ ให้จำคุก ๖ เดือน
นายบัวจำเลยยื่นอุทธรณ์ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๐
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นมิได้ระบุหากฎหมายที่ยกขึ้นลงโทษจำเลยไม่ชอบด้วยมาตรา ๑๘๖ (๗) จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นชี้ขาดความผิดสำหรับนายบัวจำเลยเสียใหม่
ศาลชั้นต้นทำคำพิพากษาใหม่ พิพากษาว่า นายบัวจำเลยผิดตามมาตรา ๒๔๙, ๕๓ ให้จำคุก ๖ เดือน แล้วส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์คืนสำนวนไปยังศาลชั้นต้น อ้างว่าไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์ขึ้นมาประการใด
ศาลชั้นต้น จึงนัดคู่ความมาสอบถามจำเลยยืนยันว่า ได้ยื่นอุทธรณ์ไว้แล้วคือ ฉบับวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๐ นั้น ขอให้ส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า อุทธรณ์ฉบับลงวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๐ นั้น ได้วินิจฉัยให้แล้วโดยพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่แล้ว ก็ต้องอุทธรณ์ขึ้นมาใหม่ จะอาศัยอุทธรณ์เดิมไม่ได้
นายบัวจำเลยฎีกาคำสั่ง ให้รับอุทธรณ์
ศาลฎีกาเห็นว่า อุทธรณ์ลงวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๐ ของนายบัวจำเลยนั้น ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยให้แล้ว โดยพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ และ ศาลชั้นต้นก็ได้ทำคำพิพากษาใหม่แล้ว จำเลยหาได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาใหม่นั้นไม่ อุทธรณ์ฉบับลงวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๐ ของจำเลยเป็นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาครั้งแรกของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้แล้ว ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีหน้าที่วินิฉัยอุทธรณ์ฉบับนั้นให้จำเลยซ้ำอีก จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย