แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในระหวางพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกาได้มี พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ประกาศออกใช้เป็นกฎหมายแล้วโดยยกเลิก พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 และ พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 ที่โจทก์ฟ้องอ้างเป็นบทลงโทษจำเลยแล้ว มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้ใหม่ตามมาตรา 32 ซึ่งมีโทษเบากว่ามาตรา 8 พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 จึงต้องใช้กฎหมายใหม่เป็นบทลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 8
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันมีและขายหรือแสดงเพื่อขายสุราที่ทำขึ้นมิชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๖ มาตรา ๘
ศาลชั้นต้นลงโทษฉะเพาะจำเลยที่ ๒ ยกฟ้องจำเลยที่ ๑, – ๓
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ด้วยโดยปรับ ๑๒๐๐ บาท เพิ่มโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๗๒ อีก ๑ ใน ๓ รวมเป็นปรับ ๑๖๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ กระทำผิดด้วยแต่ความปรากฎว่า ในระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกา ได้มี พ.ร.บ. ภาษีชั้นใน จ.ศ. ๑๒๔๘ และ พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๖ ที่โจทก์ฟ้องอ้างเป็นบทลงโทษจำเลยแล้ว มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้ใหม่ตามมาตรา ๓๒ ซึ่งมีโทษเบากว่ามาตรา ๘ พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๖ จึงต้องใช้กฎหมายใหม่เป็นบทลงโทษจำเลยที่ ๑ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๘ จึงพิพากษาแก้คำพิพาทศาลอุทธรณ์ให้ปรับจำเลยที่ ๑ ตามมาตรา ๓๒ แห่ง พ.ร.บ.สุรา ๒๔๙๓ เป็นเงิน ๕๐๐ บาท เพิ่มโทษตามมาตรา ๗๒ ก.ม.ลักษณะอาญาอีก ๑ ใน ๓ รวมเป็นเงินค่าปรับ ๖๖๖ บาท ๖๖ สตางค์ นอกจากที่แก้คงยืน
