คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์โอนเช็คพิพาทไปโดยมิได้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาท โจทก์จึงมิใช่ผู้สลักหลังลอยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 919 เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์จึงมีฐานะเป็นผู้ทรงเช็คพิพาท มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่ตั๋วเงินถึงกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คสองฉบับซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อถึงกำหนดชำระแล้วโจทก์ได้นำเช็คทั้งสองฉบับไปขอรับเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ไม่มีมูลหนี้ตามกฎหมายที่ต้องชำระ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและคดีโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ได้นำเช็คพิพาทไปชำระให้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์ เมื่อเจ้าหนี้ของโจทก์ถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินก็คืนเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะฟ้องไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยภายในกำหนดหกเดือนนับแต่ได้รับเช็คหรือเข้าถือเอาเช็คและใช้เงินให้แก่ผู้ทรงคนก่อน ขอให้ยกฟ้อง
ก่อนสืบพยานจำเลยแถลงว่าไม่ติดใจสืบพยานบุคคล ขอสละประเด็นข้ออื่น ขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงข้อเดียวว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และยอมรับว่าเดิมโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท ต่อมาได้โอนเช็คพิพาทให้แก่นายขวัญเมืองและนางสายทอง ครั้นเช็คพิพาทถึงกำหนดบุคคลดังกล่าวได้นำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงได้โอนเช็คพิพาทคืนให้แก่โจทก์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์แล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะการสั่งจ่ายเช็คเงินสดโดยขีดคร่อมนั้นจะโอนให้แก่กันได้ก็ด้วยการส่งมอบซึ่งกฎหมายถือเป็นการสลักหลังลอย โจทก์ซึ่งเป็นผู้โอนเช็คพิพาทจึงเป็นผู้สลักหลังลอย จะต้องฟ้องผู้สั่งจ่ายภายในหกเดือนนับแต่วันเข้าถือเอาเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๐๓ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อโจทก์โอนเช็คพิพาทไปโดยมิได้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาท โจทก์จึงมิใช่ผู้สลักหลังลอยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๑๙ เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์จึงมีฐานะเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทมีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่ตั๋วเงินถึงกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๐๒ คดีจึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share