คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 465/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญาเมื่อปรากฏว่า จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ แต่ในชั้นสืบพยานจำเลย ตัวจำเลยเข้าเบิกความปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิด ก็ถือได้ว่าจำเลยให้การปฏิเสธ
ในกรณีที่ศาลมิได้สอบถามคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 นั้น กฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าจะมีผลอย่างไร แต่ตามหลักกฎหมายจำเลยจะให้การเมื่อใดหรือให้การใหม่กลับคำให้การเดิมก็ได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการสอบถามคำให้การเป็นแต่เพียงเพื่อได้ทราบประเด็นเบื้องต้นแห่งคดีเท่าที่จะทำได้ แต่คำให้การของจำเลยตามที่ศาลสอบถามนั้น จำเลยจะให้การเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ได้ ดังนี้ แม้ศาลมิได้สอบถามคำให้การจำเลยไว้แต่ต้น ก็ไม่ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเสียไปหรือจำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสอบถามคำให้การจำเลยอีก

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ล้วงกระเป๋าเสื้อลักเอาธนบัตรฉบับละสิบบาทของนางแดง วงศ์สุวรรณ ซึ่งกำลังซื้อของไปรวมเป็นเงิน ๗๐ บาท ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๔ และให้คืนเงินของกลางให้เจ้าทรัพย์ด้วย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ๒ ปี ตามมาตรา ๓๓๔ คืนเงินของกลางให้เจ้าทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์มีแต่ตัวผู้เสียหายและจำเลยยันกันไม่พอจะลงโทษจำเลยได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ แต่ในชั้นสืบพยานจำเลย ตัวจำเลยเข้าเบิกความปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิด ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อการพิจารณาชั้นสอบถามคำให้การจำเลยได้ผ่านพ้นมาและต่อมาจำเลยได้เบิกความปฏิเสธความผิด ก็ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธในคดีนี้ เพราะกรณีที่ศาลมิได้สอบถามคำให้การต่อสู้ของจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๒ นั้น กฎหมายมิได้บัญญัติว่าจะมีผลอย่างไร และตามหลักกฎหมาย จำเลยจะให้การเมื่อใดหรือให้การใหม่กลับคำให้การเดิมก็ได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการสอบถามคำให้การเป็นแต่เพียงเพื่อได้ทราบประเด็นเบื้องต้นแห่งคดีเท่าที่จะทำได้ แต่คำให้การของจำเลยตามที่ศาลสอบถามนั้น จำเลยจะให้การเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ได้ เฉพาะคดีนี้ เมื่อในที่สุดจำเลยเบิกความปฏิเสธความผิด ก็ย่อมถือได้ว่าเท่ากับจำเลยให้การปฏิเสธ ดังนี้ แม้ศาลมิได้สอบถามคำให้การจำเลยไว้แต่ต้น ก็ไม่ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเสียไปหรือจำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสอบถามคำให้การจำเลยอีก
สำหรับข้อเท็จจริงนั้น ฟังว่า จำเลยได้ล้วงกระเป๋าเอาเงินของผู้เสียหายไปจริง พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share