คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จะรับฟังพยานหลักฐานซึ่งคู่ความระบุหรือยื่นฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 และ 90 หรือไม่เพียงไรนั้น ต้องพิจารณาตามพฤติการณ์และเหตุผลเป็นเรื่อง ๆ ไป คดีที่ศาลให้โจทก์นำสืบก่อนนับแต่วันชี้สองสถานถึงวันสืบพยานโจทก์เป็นระยะเวลาถึง 1 เดือน จำเลยก็ไม่ยื่นบัญชีพยานหรือหาทนายแก้ต่าง และจะอ้างว่าไม่ได้ระบุและส่งสำเนาเอกสารเนื่องจากไม่มีทนายความ ตนเองไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้กฎหมาย ดังนี้หาได้ไม่ และที่เพิ่งมายื่นบัญชีพยานและส่งเอกสารที่ตนจะอ้างภายหลังที่โจทก์สืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้โจทก์เสียเปรียบด้วย กรณีก็ปราศจากเหตุผลอันสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานและรับฟังพยานหลักฐานนั้น ๆ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๓ เป็นเจ้าของเรือยนต์ จำเลยที่ ๒ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๓ และเป็นนายท้ายควบคุมเรือในการรับจ้างลากจูง จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าของเรือบรรทุกของว่าจ้างให้จำเลยที่ ๒ ลากจูง จำเลยที่ ๒ ได้ให้จำเลยที่ ๑ ปล่อยเรือพ่วงออกจากพวงเป็นเหตุให้เรือจำเลยที่ ๑ ชนโพงพางของโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหาย
จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธความรับผิด โดยจำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่าได้จ้างให้นายไล้ควบคุมเรือ ไม่ทราบว่าชนโพงพางโจทก์จริงหรือไม่ จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่าเรือจำเลยที่ ๑ ชนโพงพางเพราะไม่ระมัดระวัง จำเลยที่ ๓ ต่อสู้ว่าเป็นเจ้าของเรือยนต์จริง แต่ให้นายธวัชเช่าขอนตอนไปแล้ว จำเลยที่ ๑, ๒ ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๓ ไม่ต้องรับผิด
ในวันนัดพร้อม จำเลยที่ ๒ ยอมรับผิดตามฟ้อง (จำเลยนอกนั้นยังปฏิเสธความรับผิดอยู่อีก) ศาลชั้นต้นให้โจทก์นำสืบก่อน เมื่อโจทก์สืบพยานหมดแล้ว จำเลยที่ ๑ แถลงไม่สืบพยาน ส่วนจำเลยที่ ๓ ขอสืบพยาน โจทก์คัดค้านว่าจำเลยที่ ๓ ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานและไม่ส่งสำเนาสัญญาเช่าเรือให้โจทก์ จำเลยที่ ๓ แถลงว่าไม่มีทนาย ไม่ค่อยเข้าใจและไม่ใช่ต้องการเอาเปรียบ ศาลชั้นต้นเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่ความยุติธรรม จึงอนุญาตให้จำเลยที่ ๓ สืบพยานได้ โจทก์ยื่นคำแถลงคัดค้านไว้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๒ แต่ผู้เดียวใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยที่ ๓ สืบพยานและรับฟังพยานหลักฐานของจำเลยที่ ๓ นั้น ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๗ พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลจะรับฟังพยานหลักฐานซึ่งคู่ความระบุหรือยื่นโดยฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๘ และ ๙๐ หรือไม่เพียงไรนั้น ต้องพิจารณาตามพฤติการณ์และเหตุผลเป็นเรื่อง ๆ ไป ที่จำเลยอ้างว่าไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานและไม่ได้ส่งสำเนาสัญญาเช่าที่จะอ้างให้โจทก์ภายในกำหนดเนื่องจากไม่มีทนายและตนไม่ค่อยเข้าใจนั้น เป็นเหตุผลที่ไม่ควรรับฟัง เพราะจากวันชี้สองสถานถึงวันนัดสืบพยานโจทก์เป็นระยะเวลาถึง ๑ เดือน จำเลยที่ ๓ ก็หาได้ยื่นบัญชีระบุพยานหรือหาทนายแก้ต่างอันควรต้องปฏิบัติไม่ จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้ และยังเพิ่งมายื่นบัญชีระบุพยานและส่งเอกสารสัญญาเช่าภายหลังโจทก์สืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้วเช่นนี้ ทำให้โจทก์เสียเปรียบในทางคดี กรณีปราศจากเหตุอันควรที่จะอนุญาตให้จำเลยที่ ๓ ยื่นบัญชีระบุพยานและรับฟัรงพยานหลักฐานอันฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๘๘ และ ๙๐ พิพากษายืน

Share