แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยขอเพิกถอนการให้ เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณโดยได้ด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายต่าง ๆ และขับไล่โจทก์ จนต้องไปอยู่ที่อื่น ได้รับความเดือดร้อนอดหยาก แม้คำด่าที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องจะเป็นการกล่าวคำหมิ่นประมาทซึ่งหน้าก็ตาม ศาลก็ควรฟังพยานหลักฐานแห่งพฤตติการณ์ต่อไป เพราะการกระทำของจำเลยดั่งที่โจทก์อ้างเป็นข้อเท็จจริงในคำฟ้องนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการประพฤติเนรคุณตามความในมาตรา 531
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ เป็นบุตรโจทก์ จำเลยที่ ๒ เป็นภรรยาจำเลยที่ ๑ แต่มิได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๒ โจทก์กับนายพริ้งสามีโจทก์ได้โอนกรรมสิทธิที่ดินสามแปลงให้แก่จำเลยที่ ๑ ไปโดยเสน่หา และเมื่อประมาณ ๕ ปีมานี้ นายพริ้งตายลง ครั้นเดือน ๖ ข้างแรมวันใดจำไม่ได้แน่ พ.ศ. ๒๕๙๒ จำเลยทั้งสองได้สมคบกันด่าว่าขับไล่โจทก์ว่า อีห่าเย็ด อีดอกทอง อีแก่ มึงจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป กูไม่ให้มึงอยู่กับกู และถ้อยคำหยาบอื่น ๆ อีกมาก โจทก์ทนไม่ไหวต้องไปอาศัยอยู่กับผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนอดหยาก ปรากฎว่าจำเลยที่ ๑ ได้ยอมให้จำเลยที่ ๒ ลงชื่อร่วมในโฉนดนั้นด้วย จึงขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนสัญญาให้กรรมสิทธิที่ดินโฉนดที่ ๒๓๕๑, ๒๔๑๕ และที่ดินสวนยางให้กลับเป็นของโจทก์
จำเลยต่อสู้ในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหลายประการแล้ว ขอให้ศาลชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้น
ศาลชั้นต้นสอบคู่ความแล้ว เห็นว่า คำกล่าวของจำเลบเป็นการหมิ่นประมาท ซึ่งหน้าอันเป็นการไม่ร้ายแรงยังไม่เป็นการเนรคุณ และทั้งโจทก์ยังมีที่ดินอีก ๕ ไร่ จึงไม่เป็นคนยากไร้ แม้โจทก์จะสืบพยานไปจนสิ้นกระแสร์ความ ก็ไม่มีทางจะชนะคดีได้ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ดำเนินการพิจารณาสืบพยานแล้ว พิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยดั่งที่โจทก์อ้างเป็นข้อเท็จจริง ในคำฟ้องนั้นอาจถือว่าเป็นการประพฤติเนรคุณตามความในมาตรา ๕๓๑ ศาลควรฟังพยานหลักฐานแห่งพฤตติการณ์ต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป และพิพากษาใหม่นั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาจำเลยเสีย