คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลย โดยอ้างว่าจำเลยได้ทำสัญญายอมความไว้ที่อำเภอจำเลยปฏิเสธว่ามิได้ทำสัญญายอมความลับโจทก์ เมื่อโจทก์จำเลยไม่สืบพยาน ศาลจะอาศัยสำเนาเอกสารในสำนวนในอีกคดีหนึ่งซึ่งจำเลยมิได้เป็นคู่ความด้วย และจำเลยมิได้รับรองสำเนาเอกสารฉะบับนั้นว่าเป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความแต่อย่างใดมาเป็นพยานหลัก ฐานพิพากษาให้จำเลยใช้เงินโจทก์ไม่ได้ต้องถือว่าโจทก์ไม่สืบให้สมฟ้องคดีของโจทก์จึงไม่มีหลักฐานพยานพอที่จะ ให้ศาลฟังเป็นความจริงได้ จึงต้องยกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้เงินแก่โจทก์ตามสัญญายอมความที่จำเลยทำไว้ที่อำเภอ
จำเลยให้การต่อสู้คดีปฏิเสธว่า จำเลยมิได้ทำสัญญาปราณีประนอมยอมความกับโจทก์
คู่ความต่างไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นอาศัยสำเนาเอกสารฉะบับหนึ่งในคดีแพ่งแดงที่ ๑๖๐/๒๔๙๒ จึงพิพากษาให้จำเลยในคดีนี้ใช้เงินโจทก์ ศาลฎีกาเห็นว่าทางพิจารณาในคดีนี้ไม่ปรากฎเลยว่า จำเลยได้รับรองสำเนาเอกสารฉะบับที่กล่าวว่าเป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความนั้นแต่อย่างใดจำเลยให้การต่อสู้คดี ปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ทำสัญญาปราณีประนอมยอมความกับโจทก์ โจทก์ไม่สืบให้ได้สมตามฟ้องคดีของโจทก์จึงไม่มีหลักฐานพยานพอที่จะให้ศาลฟังเป็นความจริงได้ คำพิพากษาคดีแดงที่ ๑๖๐/๒๔๙๒ ไม่ผูกพันจำเลยคดีนี้ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share