คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ขายฝากขอไถ่ถอนที่ดินซึ่งขายฝากไว้ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาผู้ซื้อขอผัดผ่อนประวิงเวลาไปเรื่อยจนพนกำหนดไถ่ถอนคืน ดังนี้ จะถือว่าผู้ขายผิดนัดไม่ใช้สิทธิขอไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากภายในกำหนดหาได้ไม่ และไม่เป็นการขยายเวลาไถ่ถอนจากสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496 ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๐๒ โจทก์ได้ขายฝากที่ดินเฉพาะส่วนของโจทก์พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างไว้กับจำเลยเป็นเงิน ๒๔,๘๐๐ บาท สัญญาไถ่คืนภายใน ๑ ปี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๐๓ โจทก์ได้ไปขอไถ่คืน แต่จำเลยบ่ายเบี่ยงอ้างว่า ภรรยาจำเลยซึ่งไปแสวงบุญเก็บรักษาหนังสือสัญญาไว้ ให้มาไถ่ในเดือนสิงหาคม ครั้นภรรยาจำเลยกลับมาจากแสวงบุญตามกำหนดนั้น โจทก์ได้ไปขอไถ่อีก จำเลยนัดให้ไปไถ่ถอนกันที่สำนักงานทะเบียนที่ดินในวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๐๓ ในวันนั้นเมื่อโจทก์จำเลยได้แจ้งความประสงค์ต่อเจ้าพนักงานเพื่อทำการไถ่ถอนแล้ว จำเลยก็ไปเสียจากสำนักงานทะเบียนที่ดิน อ้างเหตุว่าลืมนำหนังสือสัญญาขายฝากมา จะกลับไปเอา ครั้นแล้วกลับมาบอกว่าสัญญาหายเสียแล้ว ไม่ยอมให้โจทก์ไถ่ถอน การกระทำของจำเลยเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ไถ่คืนซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๘๙ ในราคา ๒๔,๘๐๐ บาท ตามสัญญา
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้ไถ่ถอนที่ดินคืนภายในกำหนด จึงไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยไม่เคยบ่ายเบี่ยงดังฟ้องโจทก์ และฟ้องแย้งว่า จำเลยจะเข้าครอบครองทรัพย์รายนี้ แต่โจทก์ไม่ยอม ทำให้จำเลยขาดประโยชน์เดือนละ ๓๐๐ บาท ขอให้โจทก์ชดใช้
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้ง
ศาลแพ่งเชื่อว่าโจทก์ไม่ผิดสัญญา พิพากษาให้จำเลยยอมให้โจทก์ไถ่ถอนคืนซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ ๑๔๘๙ ในราคา ๒๔,๘๐๐ บาท ยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ได้ไปเจรจาขอไถ่ถอนที่ดินภายในกำหนดเวลาตามสัญญา แต่จำเลยขอผัดผ่อนอ้างว่าหนังสือสัญญาขายฝากภรรยาของตนซึ่งไปต่างประเทศเก็บไว้ ให้มาไถ่คืนเมื่อภรรยาจำเลยกลับมาแล้ว เมื่อภรรยาจำเลยกลับมาในเดือนสิงหาคม ๒๕๐๓ โจทก์ก็ได้ไปพูดขอไถ่ถอนตามที่จำเลยผัดไว้อีก จำเลยก็อ้างเหตุประวิงอยู่เรื่อยมา เมื่อกรณีเป็นดังนี้แล้วจะถือว่าโจทก์ผิดนัดไม่ใช้สิทธิขอไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากภายในกำหนดหาได้ไม่ และจะว่าเป็นการขยายเวลาไถ่ถอนจากสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๙๖ ดังฎีกาจำเลยก็ไม่ได้ ต้องถือว่าโจทก์ได้ขอไถ่ถอนภายในกำหนด ๑ ปีแล้ว ตามมาตรา ๔๙๒ สิทธิขอไถ่ถอนของโจทก์จึงไม่ระงับไป แม้จะล่วงเลยกำหนดไถ่ถอนตามสัญญาแล้วก็ตาม ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๓๓๙/๒๕๐๒ นางอาจิต ชัยประภา โจทก์ นายทองดี อิศรกุล จ.ล.
พิพากษายืน

Share