คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน แต่แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานจับกุมควบคุมตัวผู้เสียหายไปและเตะทำร้ายผู้เสียหายมีบาดเจ็บ มีรอยถลอกและเขียวช้ำบริเวณลิ้นปี่ หน้าท้องนูนขึ้นมา เวลากดบริเวณหน้าท้องเจ็บทั่ว ๆ ไปรักษาประมาณ 15 วันหายเป็นความผิดตามมาตรา 145,310 และ 295

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันแสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ จบกุมนายอุดมหาว่าพยายามทำร้ายร่างกาย และจำเลยใช้ผ้ามัดข้อมือนายอุดมควบคุมออกจากบริเวณงานฉลองพระพุทธรูปเป็นการหน่วงเหนี่ยวให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย แล้วจำเลยร่วมกันเตะทำร้ายร่างกายนายอุดมถูกลิ้นปี่และหน้าท้องมีรอยถลอกและเขียวช้ำบวม รักษาประมาณ ๑๕ วันหาย ปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๑๔๕,๓๑๐,๒๙๕
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ว่าจำเลยทั้งสองผิดมาตรา ๑๔๕,๓๑๐,๒๙๕ ลงโทษตามมาตรา ๓๑๐ ซึ่งเป็นบทและกระทงหนัก จำคุกคนละ ๑ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า นายอุดมมีบาดเจ็บเป็นรอยถลอกและเขียวช้ำบริเวณลิ้นปี่ หน้าท้องนูนขึ้นมา เวลากดบริเวณหน้าท้องเจ็บทั่ว ๆ ไป รักษาประมาณ ๑๕ วันหาย ดังปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลของแพทย์ และเชื่อว่าจำเลยทั้งสองเตะทำร้ายร่างกายนายอุดมจริง และเห็นว่าที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างโรงต้มกลั่นสุรามีหน้าที่เพียงนำเจ้าพนักงานออกตรวจจับสุราเถื่อน ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ประการใด การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน เมื่อจับกุมควบคุมตัวนายอุดมไปก็เป็นผิดฐานหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และทำร้ายร่างกายนายอุดมด้วย นั้น ชอบด้วยรูปคดีแล้ว พิพากษายืน

Share