คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทายาทโดยธรรมจะฟ้องขอแบ่งที่ดินมฤดกซึ่งมีชื่อทายาทอีกคนหนึ่งแต่ผู้เดียวในโฉนดที่ดินมฤดกนั้น ไม่จำเป็นต้องร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนนิติกรรมการโอนนั้นก่อน คำขอบังคับในฟ้องย่อมเป็นการขอเพิกถอนไปในตัว
ทายาทผู้เยาว์ซึ่งอยู่ในความปกครองของพี่สาวตลอดมา และพี่สาวเป็นผู้ปกครองทรัพย์มฤดกแทนนั้น แม้จะปกครองมาตั้ง 10 ปีก็ไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอแบ่งมฤดกจากจำเลยซึ่งเป็นพี่สาว จำเลยต่อสู้หลายอย่างและว่าคดีขาดอายุความ
ศาลจังหวัดสระบุรีพิจารณาแล้วฟังว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะจำเลยปกครองดูแลโจทก์ตลอดมาถือได้ว่าจำเลยได้ครอบครองทรัพย์มฤดกแทนโจทก์ จึงพิพากษาให้แบ่งทรัพย์คนละครึ่งระหว่างโจทก์จำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ยืน
จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่า เมื่อจำเลยโอนโฉนดเป็นชื่อจำเลยแล้ว โจทก์จะฟ้องขอแบ่งโดยไม่ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนเสียก่อนนั้นไม่ได้ และว่าโจทก์ไม่ฟ้องคดีภายใน ๑ ปีคดีย่อมขาดอายุความ
ศาลฎีกาตัดสินว่า โจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนเสียก่อน เพราะตามฟ้องของโจทก์เมื่อฟังเป็นความจริง คำขอบังคับคดีก็เป็นการขอเพิกถอนไปในตัว
ส่วนในเรื่องอายุความ ๑ ปีนั้น เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นผู้เยาว์อยู่ในปกครองของจำเลย ๆ ได้ครอบครองทรัพย์มฤดกมาแทนโจทก์ด้วยแล้ว คดีโจทก์ก็หาขาดอายุความไม่ จึงพิพากษายืน

Share