คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยพาพวกปล้นมารู้จักบ้านผู้เสียหายแล้วแยกทางไปโดยไม่ได้ร่วมปล้นด้วย จำเลยมีความผิดเพียงเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86
จำเลยสนับสนุนตัวการให้ปล้นทรัพย์ตัวการได้กระทำการเพียงพยามยามปล้น จำเลยจึงต้องรับโทษสองในสามของความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับนายซุ่น แซ่เต้ง ซึ่งตายไปแล้ว ได้ร่วมกันทำการปล้นทรัพย์นายหล้อม ขวัญนิมิตร โดยจำเลยที่ ๑, ๒ เป็นผู้ใช้และวางแผน ให้ที่พักชี้ช่อง แนะบ้านนายหล้อมให้จำเลยที่ ๓,๔ และนายซุ่น แซ่เต้ง จำเลยที่ ๓,๔ และนายซุ่นมีมีดและปืนเป็นอาวุธทำการปล้น แต่จำเลยกับพวกทำไปไม่ตลอด เพราะเจ้าทรัพย์ต่อสู้ขัดขวางจนนายซุ่นได้รับบาดเจ็บถึงตาย จำเลยที่ ๓ ถูกยิงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๐,๘๒,๘๔,๘๖,๓๔๐ ริบของกลาง
จำเลยที่ ๑,๒ ให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ ๓,๔ ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยทั้ง ๔ร่วมกันพยามยามปล้นทรัพย์ พิพากษาว่าจำเลยที่ ๑,๒ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๓,๘๔,๘๖,๓๔๐ วรรค ๒ ประกอบมาตรา ๘๐ วางโทษ ๒ ใน ๓ จำคุกคนละ ๘ ปี โดยไม่ลดโทษให้ ส่วนจำเลยที่ ๓,๔ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๓,๓๔๐ วรรค ๒ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ วางโทษ ๒ ใน ๓ คงจำคุกคนละ ๘ ปี ลดรับสารภาพให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๔ ปี
จำเลยที่ ๓,๔ ไม่อุทธรณ์
จำเลยที่ ๑,๒ อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยที่ ๑,๒ เป็นผู้ยุยงส่งเสริมให้จำเลยที่ ๓,๔ ทำการปล้นต้องรับผิดเสมือนตัวการ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยที่ ๑,๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐ วรรค ๒ ประกอบมาตรา ๘๐,๘๓,๘๔ วางโทษ ๒ ใน ๓คงจำคุกคนละ ๘ ปี ลดรับสารภาพให้ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุกคนละ ๕ ปี ๔ เดือน
จำเลยที่ ๑,๒ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายหลอมผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานว่าจำเลยที่ ๑,๒ นำจำเลยที่ ๓,๔ และนายซุ่นมาดูบ้านผู้เสียหายแล้วแยกทางไป ศาลฎีกาจึงเชื่อว่าจำเลยที่ ๑,๒ เป็นเพียงผู้นำจำเลยที่ ๓,๔ และนายซุ่นมารู้จักบ้านผู้เสียหายแล้วจำเลยที่ ๑,๒ ก็แยกทางไปโดยไม่ได้ร่วมเข้าปล้นด้วย จำเลยที่ ๑,๒ จึงมีผิดเพียงเป็นผู้สนับสนุนโดยให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำผิดก่อนเข้าปล้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๖ ยังไม่เข้าชั้นเสมือนตัวการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา + ในเรื่องนี้ จำเลยที่ ๓,๔ กระทำผิดฐานพยายามปล้น จำเลยที่ ๑,๒ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนจึงต้องรับโทษสองในสามของความผิดพยายามปล้นทรัพย์
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยที่ ๑,๒ มีผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐ วรรค ๒ ประกอบมาตรา ๘๐,๘๖ ฐานเป็นผู้สนับสนุนการปล้น ให้วางโทษจำคุกคนละ ๕ ปี ๔ เดือน ลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยคนละ ๑ ปี ๖ เดือน ๒๐ วัน ยกฎีกาจำเลย.

Share