แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้อยู่ในวงเล่นการพะนันกฎหมายสันนิษฐานว่าเป็นผู้เล่นด้วย เมื่อสืบแก้ตัวไม่ได้ ต้องมีผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันลักเล่นการพะนันโปปั่นเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้รับอนุญาตโดยจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าสำนักและเล่นด้วย ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพะนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ จำคุกคนละ ๒ เดือน ปรับคนละ ๓๐๐ บาท
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีสำหรับจำเลยที่ ๑ ที่ ๕ และที่ ๖ ยังมีเหตุสงสัย จึงให้ยกฟ้องโจทก์ นอกนี้คงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าคำพะยานโจทก์มีน้ำหนักและเหตุผลดีกว่าฝ่ายจำเลย และตามพระราชบัญญัติการพะนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๖ ให้สันนิษฐานว่าผู้อยู่ในวงเล่นการพะนันเป็นผู้เล่นด้วย ดังนั้นจำเลยที่ ๑ ที่ ๕ ที่ ๖ จึงต้องข้อสันนิษฐานว่า เป็นผู้เล่น เมื่อจำเลยเหล่านี้นำสืบแก้ตัวไม่ได้ ก็ต้องชี้ขาดว่าเป็นผู้เล่น จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น