แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กำนันไม่มีอำนาจจับคนโดยไม่มีหมายจับ และพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสั่งให้กำนันจับคนโดยไม่มีหมายจับ
ย่อยาว
ความว่า จำเลยเป็นกำนันได้จับโจทก์มัดมือพาไปหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้ยังที่ว่าการอำเภอ ๑ ชั่วโมง โจทก์ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญาตามมาตรา ๒๗๐ จำเลยให้การว่า พนักงานสอบสวนสั่งให้จำเลยจับ และแถลงรับว่าที่จับโจทก์นั้นโดยมิได้มีหมาย โจทก์ไม่สืบพะยานศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานจำเลย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๗+ ให้จำคุก ๑๕ วัน ปรับ ๕๐ บาท ยกโทษจำคงปรับสถานเดียว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลดโทษฐานปราณีตามมาตรา ๕๙ เสีย ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑๐ วัน ปรับ ๓๓ บาท ๓๓ สตางค์ โทษจำคุกให้ยกเสีย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยจับโจทก์โดยไม่มีหมายจับเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และพนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้จับโดยไม่มีหมายจับ ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยเชื่อโดยสุจริตว่า คำสั่งของพนักงานสอบสวนเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่าข้อแก้ตัวของจำเลยฟังไม่ขึ้น ดังศาลเดิมได้วินิจฉัยไว้แล้ว ข้อที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยควรผิดเพียงฐานประมาทเท่านั้นเห็นว่า จำเลยเจตนาจับโจทก์โดยตรง หาใช่ประมาทไม่
พิพากษายืน