คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามฟ้องและคำให้การฟังได้ว่า โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยครอบครองมากกว่า 20 ปีแล้ว จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าการยกให้ไม่สมบูรณ์ จำเลยต่อสู้โดยอ้างเหตุเพียงว่า ไม่ได้ประพฤติเนรคุณ และโจทก์ยกให้เนื่องในการสมรส ประเด็นคงมีเพียงว่า โจทก์ยกให้เนื่องในการสมรสหรือไม่ และจำเลยได้ประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ ซึ่งจะต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป ศาลไม่ชอบที่จะสั่งงดสืบพยาน ในเมื่อสอบคู่ความได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า โจทก์บอกยกให้ด้วยปาก ไม่ได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียน แล้วเลยวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์ จึงพิพากษายกฟ้อง เพราะการให้สมบูรณ์หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นในคดีนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินคืนจากจำเลย โดยอ้างว่า โจทก์ยกให้ แล้วจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ยกให้จำเลยในการสมรส จำเลยกับสามีได้ครอบครองทำประโยชน์มาจนสามีตาย จำเลยไม่เคยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความ โจทก์แถลงว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า ไม่มีหนังสือสำคัญ บอกยกให้ด้วยปาก ไม่ได้ทำหนังสือจดทะเบียน จำเลยครอบครองมา ๒๕ ปีแล้ว ที่ฟ้องเพราะจำเลยประพฤติเนรคุณ
จำเลยแถลงว่า โจทก์ยกให้เนื่องในการสมรส ๓๖ ปีมาแล้ว จำเลยครอบครองตลอดมา
ศาลชั้นต้นส่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ยกที่ดินให้จำเลยโยไม่ได้ทำหนังสือและจดทะเบียนการให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การให้ไม่สมบูรณ์และไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ฟ้องเรียกคืนโดยอาศัยเหตุเนรคุณ ไม่มีทางที่จะบังคับตามคำขอของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายรับกันในเบื้องต้นว่า โจทก์ได้ยกที่ดินให้จำเลยแล้ว ซึ่งจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ยกให้เนื่องในการสมรส ปัญหาจึงมีว่าโจทก์จะเรียกคืนเพราะเหตุเนรคุณได้หรือไม่ จะต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องและคำให้การฟังได้ว่า โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยครอบครองมากกว่า ๒๐ ปีแล้ว จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าการยกให้ไม่สมบูรณ์ จำเลยต่อสู้โดยอ้างเหตุเพียงว่า ไม่ได้ประพฤติเนรคุณ และโจทก์ยกให้เนื่องในการสมรส ประเด็นคงมีเพียงว่า โจทก์ยกให้เนื่องในการสมรสหรือไม่ ซึ่งจะต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share