คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3307/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย 1 ที ผู้เสียหายใช้มือรับไว้มีดบาดง่ามมือบาดแผลเพียงเล็กน้อยใช้เวลารักษา 7-10 วันแสดงว่าจำเลยมิได้แทงโดยแรงเช่นกริยาของคนที่ต้องการจะฆ่ากัน ทั้งสาเหตุที่แทงก็เกิดจากการที่จำเลยอ้างว่าผู้เสียหายเล่นไพ่โกง มีการพูดปรับความเข้าใจกันแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้น ซึ่งไม่ใช่สาเหตุร้ายแรง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายที่บริเวณท้องโดยเจตนาฆ่า ผู้เสียหายใช้มือปัดมีดได้ทัน ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จำคุก 1 ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สาเหตุที่จำเลยใช้มีดแทงนายพลัดผู้เสียหายเป็นเพราะจำเลยเล่นการพนันไพ่รัมมี่แพ้นายพลัดแล้วไม่จ่ายเงินให้นายพลัด อ้างว่านายพลัดเล่นไพ่โกงนายพลัดโกรธเอาไพ่ของจำเลยกลับบ้านไป โดยจำเลยมิได้ทักท้วงหรือแสดงอาการโกรธเคืองแต่อย่างใด ต่อมานายพลัดได้กลับมาใหม่เป็นทำนองจะมาปรับความเข้าใจกัน เมื่อนายพลัดกับจำเลยออกมาพูดกันนอกวงเหล้าก็เกิดทำร้ายกันขึ้นซึ่งสาเหตุเพียงเท่านี้ยังนับว่าไม่ใช่สาเหตุร้ายแรงถึงขั้นจะฆ่ากัน ส่วนพฤติการณ์ที่จำเลยกระทำลงไปนั้น น่าเชื่อว่าจำเลยใช้มีดแทงนายพลัดในระยะห่างประมาณ 1 เมตร แล้วนายพลัดใช้มือรับไว้ แต่ถูกมีดบาดง่ามมือ เมื่อพิเคราะห์รายงานผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องแล้ว ปรากฏว่าแพทย์ผู้ตรวจระบุรายการและความเห็นว่า มีบาดแผลที่ง่ามมือ ไม่แน่ใจว่าแผลนี้เกิดจากอะไร ถ้ารักษาถูกวิธีหายได้ใน7 – 10 วัน ลักษณะบาดแผลที่นายพลัดได้รับมีเพียงเล็กน้อยบ่งชี้ว่าจำเลยมิได้จ้วงแทงโดยแรงเช่นกิริยาของคนที่ต้องการจะฆ่ากัน หากจ้วงแทงโดยแรงจริง บาดแผลที่ง่ามมือนายพลัดต้องมากกว่านี้ ทั้งข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่า จำเลยแทงนายพลัดเพียงทีเดียว พอนายพลัดรับมีดได้ก็เกิดปลุกปล้ำกัน แล้วนายแปลกกับพวกมาแยกจำเลยกับนายพลัดออกจากกัน จากนั้นจำเลยก็วิ่งกลับบ้าน มิได้กระทำการอันใดที่จะแสดงถึงความโกรธแค้นอาฆาตอันจะเป็นการส่อว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่านายพลัดเลย การกระทำของจำเลยยังไม่ถึงขั้นเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น แต่โทษที่ศาลอุทธรณ์ลงมานั้นยังไม่เหมาะสมกับสภาพความผิดของจำเลย เห็นควรแก้ไขเสียให้เหมาะสม
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี ปรับ1,500 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาถือว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 8 เดือน ปรับ 1,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน พฤติการณ์แห่งคดีที่จำเลยกระทำผิดในคดีนี้ก็ไม่ร้ายแรง จำเลยกับผู้เสียหายเป็นเพื่อนกันเมื่อมีผู้แยกจำเลยออกจากผู้เสียหาย จำเลยก็วิ่งหนีกลับบ้าน บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับมีเพียงเล็กน้อย จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีสักครั้งหนึ่งโดยให้รอการลงโทษจำคุกไว้ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share