แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยฎีกาว่า ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องก็เพราะอ้างว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ดังนี้เป็นการฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๙ และให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยโดยเชื่อว่าจำเลยกระทำผิดดังฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ๔ ปี กับให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เห็นพ้องด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น แต่ขณะกระทำผิด จำเลยมีอายุเพียง ๑๙ ปี ควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลย ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๖ จึงพิพากษาแก้ คงให้จำคุก ๒ ปี ๘ เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาว่า ทางพิจารณาต่างกับฟ้อง คือ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนี ๑ คน ได้บังอาจะร่วมกันชิงทรัพย์ของนางสาวแดง แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ทำการชิงทรัพย์แต่อย่างใด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่า ทางพิจารณาต่างกับฟ้องก็เพราะอ้างว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั่นเอง ไม่ใช่เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย คดีของจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๑๘ พิพากษายืน และยกฎีกาจำเลย