คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยละเมิดทำให้โจทก์เสียหายแล้ว ศาลก็พิพากษาให้จำเลยรับผิดในความเสียหายนั้น ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 การที่มีผู้อื่นทำละเมิดจะต้องรับผิดในความเสียหายนั้นอีกหรือไม่ ไม่ทำให้ความรับผิดของจำเลยลดลงแต่ประการใด ฉะนั้น การที่โจทก์จะฟ้องผู้ทำละเมิดแต่บางคนหรือถอนฟ้องบางคนก็ไม่ทำให้ความรับผิดของจำเลยผู้ทำละเมิดและต้องรับผิดดังกล่าวแล้วเปลี่ยนแปลงไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๔ ถึง ๑๑ จำเลยที่ ๒ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๑ ขับรถบรรทุกคนโดยสารไปตามหน้าที่ ได้เบียดกับรถที่จำเลยที่ ๒ ขับ โดยความประมาทของรถทั้ง ๒ คัน ทำให้รถเบียดกระแทกแขนขวาของโจทก์ขาด ขอเรียกค่าเสียหายรวม ๑๒๕,๕๕๕ บาท
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ประมาทเลินเล่อ และโจทก์มิได้เสียหายดังฟ้อง
อนึ่ง โจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ เป็นคดีอาญาด้วย แต่โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ ๒ จากคดีอาญา และถอนฟ้องจำเลยที่ ๒, ๓ ในคดีนี้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ ถึง ๑๑ ร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ ๗๐,๕๕๕ บาท กับดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้อง
จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ ถึง ๑๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยดังกล่าวฎีกาในเรื่องค่าสินไหมทดแทนและว่าโจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ ๒, ๓ คงให้จำเลยต้องรับผิดแต่ฝ่ายเดียวเป็นการไม่ชอบ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เมื่อจำเลยละเมิดทำให้โจทก์เสียหายแล้ว ศาลก็พิพากษาให้จำเลยรับผิดในความเสียหายนั้น ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๘ การที่มีผู้อื่นทำละเมิดจะต้องรับผิดในความเสียหายนั้นอีกหรือไม่ ไม่ทำให้ความรับผิดของจำเลยลดลงแต่ประการใด ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่า โจทก์จะฟ้องผู้ทำละเมิดแต่บางคนหรือถอนฟ้องบางคน ก็ไม่ทำให้ความรับผิดของจำเลยผู้ทำละเมิดและต้องรับผิดดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด จำเลยจะว่าโจทก์สมยอมไม่รับค่าเสียหายจากจำเลยอื่นแล้วขอลดค่าเสียหายที่จำเลยจะต้องรับผิดลงหาได้ไม่ และไม่ได้ความว่าโจทก์ได้รับค่าเสียหายจากจำเลยอื่นแล้วแต่ประการใด ความรับผิดของจำเลยจึงยังคงมีอยู่ตามเดิม จำเลยก็ยอมรับว่าหนี้ของจำเลยกับหนี้ของจำเลยที่ ๒, ๓ ไม่ใช่หนี้ร่วม จะนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ และจะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๙๓, ๒๙๖, ๔๓๒ มาใช้ก็ไม่ได้ ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้ ชอบแล้ว” พิพากษายืน

Share