คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การวางมัดจำต่อกันแล้วเป็นแต่ข้อสันนิษฐานว่ามีสัญญาต่อกัน ไม่ใช่ให้ถือโดยเด็ดขาดว่ามีสัญญาต่อกันแล้ว
ในกรณีที่คู่กรณีตกลงจะทำสัญญาต่อกันเป็นหนังสือนั้นฤายังไม่ได้เซ็นสัญญาต่อกัน ก็สันนิษฐานว่ายังไม่สัญญาต่อกัน ในกรณีที่ตกลงซื้อขายกันโดยมีข้อสัญญาเป็นพิเศษเมื่อครบอายุสัญญา และในระหว่างเจรจาต่อสัญญากันใหม่ก็ยังมีการซื้อขายต่อกันอยู่นั้น ถือว่าซื้อขายกันโดยมิได้มีข้อสัญญาเป็นพิเศษ

ย่อยาว

ได้ความว่าจำโจทก์จำเลยเคยติดต่อในการซื้อขายไม้กันมาเป็นเวลาหลายปี ครั้นในปี ๒๔๗๘ จึงได้ทำหนังสือสัญญาต่อกัน โดยให้โจทก์เป็นผู้รับซื้อทางกรุงเทพฯ ผู้เดียวและโจทก์ต้องวางเงินประกัน ๓๐๐๐ บาท สัญญามีอายุ ๑ ปี พอครบปีแล้วก็ยังมีการซื้อขายไม้กันเรื่อย ๆ ตลอดมา และโจทก์ได้มีจดหมายขอต่อสัญญา โดยมีการขอแก้สัญญาเดิมบางข้อเช่นลดราคาไม้ เพิ่มเงินประกัน โจทก์จำเลยได้มีจดหมายโต้ตอบกันหลายคราวและโจทก์ไปเจรจากับจำเลยด้วยตนเองบ้าง และโจทก์ได้มีหนังสือถึงจำเลยด้วยว่าเพื่อตอบแทนบริษัทจำเลยที่ให้โจทก์เป็นเอเยนต์ผู้เดียว โจทก์จะจัดหาเงินยืมให้บริษัท ๓๐๐๐๐ บาท และได้มีร่างสัญญาส่งให้แก่กันแต่ก็ยังแก้ไขร่างสัญญาและยังมิได้เซ็นสัญญาต่อกัน ในระหว่างนั้นโจทก์ได้ส่งเงินมัดจำ ๔๐๐๐ บาทให้จำเลย ๆ ได้รับเงินมัดจำไว้แล้ว และโจทก์ก็ยังมิได้หาเงินให้แก่จำเลยตามที่พูดไว้และโจทก์กลับว่าเงินที่จะหาให้นั้นเป็นแต่จะช่วย-หาให้เท่านั้นและจำนวนเงินที่จะหาให้ก็ว่าจะช่วยวิ่งเต้นหาให้เพียง ๑๒๐๐๐ บาท จำเลยจึงมีจดหมายถึงโจทก์ว่าเงื่อนไขอันเป็นสาระสำคัญของสัญญาไม่เป็นที่ตกลงกัน จึงแจ้งว่าบริษัทเลิกขายไม้ให้จำเลยโดยเด็ดขาดแล้ว และบริษัทจำเลยได้ขายไม้ให้แก่บริษัทอื่นไป ฝ่ายโจทก์อ้างว่าได้มีสัญญาต่อกันแล้ว โดยจำเลยได้รับเงินมัดจำ จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญา
ศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตาม ประมวลแพ่งฯ มาตรา ๓๗๗ ซึ่งกล่าวว่าเมื่อได้วางเงินมัดจำแล้ว ให้ถือว่า การที่ให้มัดจำนั้นย่อมเป็นพะยานหลักฐานแสดงว่าได้มีสัญญาต่อกันแล้วนั้นเป็นแต่ข้อสันนิษฐาน มิใช่ให้ถือโดยเด็ดขาดว่าได้มีสัญญาต่อกันแล้ว ในคดีนี้คู่ความมุ่งจะทำสัญญาต่อกัน+หนังสือ แต่ยังมิได้เซ็นสัญญาต่อกัน คดีจึงอยู่ในบังคับมาตรา ๓๖๖ ที่ว่ายังไม่มีสัญญาผูกพันต่อกัน ส่วนการซื้อขายไม้กันมาเรื่อย ๆ นั้นก็เป็นแต่การซื้อขายโดยไม่มีสัญญาต่อกัน (คือโดยไม่มีสัญญาตกลงกันเป็นพิเศษ)จึงพิพากษาว่าโจทก์จำเลยยังไม่มีสัญญาต่อกันให้ยกฟ้องโจทก์

Share