คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีฉ้อโกงศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า อ. ได้นำเงินไปลงหุ้นกับจำเลยและพวกเพื่อที่จะเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้ววินิจฉัยว่าการที่ อ.นำเงินไปเข้าหุ้นนั้นกระทำไปโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกระทำผิดกฎหมาย อ.จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายโจทก์อุทธรณ์ว่า ไม่ควรฟังว่า อ.ไม่ใช่ผู้เสียหายเพราะ อ.ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำผิดด้วยเนื่องจากได้ยับยั้งไม่กระทำการให้ตลอด อุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าวไม่ได้โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมาโดยให้ฟังเป็นอย่างอื่นเลยคงอุทธรณ์โต้เถียง แต่เพียงว่าการกระทำของ อ.ตามที่ศาลชั้นต้นฟังมานั้นจะถือว่า อ.ไม่ใช่ผู้เสียหายหาได้ไม่เท่านั้นจึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงเงินนายเอ็งฮั้วผู้เสียหาย และขอให้คืนหรือใช้เงินให้ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลแขวงพระนครเหนือฟังข้อเท็จจริงว่านายเอ็งฮั้วได้นำเงินไปลงหุ้นกับจำเลยและพวกจริง แล้ววินิจฉัยว่าตามพฤติการณ์และความประสงค์ของผู้เสียหายในการนำเงินไปเข้าหุ้น เห็นได้ชัดว่ามีวัตถุประสงค์ไปในทางกระทำผิดกฎหมายกล่าวคือเพื่อจะเล่นการพนันกำถั่วกันโดยไม่รับอนุญาต ฉะนั้นแม้จะปรากฏว่านายเอ็งฮั้วได้ถูกจำเลยกับพวกหลอกให้นำเงินไปลงหุ้นก็ถือได้ว่านายเอ็งฮั้วได้เป็นผู้มีส่วนร่วม ในการกระทำผิดกฎหมายด้วย จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิที่จะดำเนินคดีกับจำเลยพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ว่าพยานโจทก์ต่างเบิกความว่ายังไม่ได้เล่นการพนันกัน เพราะผู้เสียหายเกิดไม่ไว้ใจจึงขอเงินที่ฝากพวกจำเลยคืน ก็ปรากฏว่าได้พากันหลบหนีไปพร้อมทั้งเงินเสียก่อนแล้วถือได้ว่าผู้เสียหายได้ยับยั้งหรือกลับใจแก้ไขไม่ให้การกระทำ นั้นบรรลุผลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๒ จึงยังไม่ควรฟังว่าผู้เสียหายได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วยเพราะความผิดหรือเล่นการพนันกำถั่วนั้นยังไม่ได้ เกิดมีขึ้น นายเอ็งฮั้วจึงควรเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย และมีสิทธิที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยได้
ศาลแขวงพระนครเหนือสั่งว่าอุทธรณ์ของโจทก์เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามไม่รับเป็นอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นฟังว่าผู้เสียหายมีส่วนร่วมในการกระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าไม่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดเป็นการเถียงข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวง ฯ ให้ยกคำร้อง
โจทก์ฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่านายเอ็งฮั้วได้นำเงินไปลงหุ้นกับจำเลยและพวกเพื่อเล่นการพนันกำถั่วกันโดยไม่รับอนุญาต แล้ววินิจฉัยว่าการที่นายเอ็งฮั้วนำเงินไปเข้าหุ้นนั้นกระทำไปโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกระทำผิดกฎหมาย โจทก์อุทธรณ์ว่าไม่ควรฟังว่า (ที่ถูกคือไม่ควรถือว่า) นายเอ็งฮั้วไม่ใช่ผู้เสียหายเพราะนายเอ็งฮั้วไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำผิดด้วยเนื่องจากได้ยับยั้งไม่กระทำการให้ตลอด ศาลฎีกาเห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมาโดยให้ฟังเป็นอย่างอื่น คงอุทธรณ์โต้เถียงแต่เพียงว่าการกระทำของนายเอ็งฮั้วตามที่ศาลชั้นต้นฟังมานั้น จะถือว่านายเอ็งฮั้วไม่ใช่ผู้เสียหายหาได้ไม่เท่านั้นอุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายไม่ต้องห้ามตาม บทกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์อ้าง
พิพากษากลับคำสั่งศาลอุทธรณ์ ให้รับอุทธรณ์โจทก์

Share