แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทำสัญญาขายฝากที่นามือเปล่ากันเอง มีข้อความว่า มีกำหนด 6 เดือนขาดนั้น แม้สัญญาจะเป็นโมฆะเพราะไม่ทำตาม แบบก็ดี แต่ตามสัญญาที่ปรากฎว่าได้มีกำหนดไว้ชัดว่า 6 เดือนขาด ซึ่งหมายความว่า ผู้ขายฝากยอมสละสิทธิในที่ พิพาทให้เป็นของผู้รับซื้อฝากเมื่อครบ 6 เดือนแล้ว ฉะนั้น เมื่อที่นาพิพาทเป็นที่นามือเปล่าและฝ่ายผู้รับซื้อฝากก็ ครอบครองอย่างเป็นที่ของตนนานเกินกว่า 6 ปีแล้ว ผู้ซื้อฝากก็ย่อมได้สิทธิในที่พิพาท เพราะการครอบครองตามนัย แห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 405/2493.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า กู้เงินจำเลยมา โดยมอบที่นามือเปล่าให้ทำกินต่างดอกเบี้ย บีดนี้ขอไถ่คืนจำเลยไม่ยอม จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ได้ขายนาพิพาทแก่จำเลยแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้คืนนาพิพาทแก่โจทก์ โดยให้โจทก์ใช้เงิน ๖๐๐ บาทให้จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์จำเลยทำสัญญากันไว้ ข้อความมในสัญญามีใจความว่า “จะขายฝากไว้กับนาย เกิด ดวงกลาง เป็นเงิน ๖๐๐ บาท มีกำหนด ๖ เดือนขาด” แม้ข้อความในสัญญากล่าว่า จะขายฝากก็ตาม แต่ปรากฎข้อ เท็จจริงตามกระบวนพิจารณาว่าเป็นเรื่องขายฝากกันเองแล้ว หาใช่เพียงแต่จะขายฝากไม่ ศาลนี้เห็นพ้องด้วยศาลอุท
ธรณ์ว่า การขายฝากรายนี้มิได้กระทำให้ถูกต้อง จะบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการขายฝากไม่ได้ กล่าวคือผู้ซื้อจะถือว่าที่ ๆ ขายฝากจกเป็ของจำเลยเมื่อครบ ๖ เดือนตามสัญญาทีเดียวไม่ได้ แต่อย่างไรก็ดี ตามสัญญาที่ปรากฏในเรื่องนี้ได้มีกำ หนดไว้ชัดว่า ๖ เดือนขาด ซึ่งหมายว่าว่า ผู้ขายสละสิทธิในที่พิพาทให้เป็นมือเปล่าของผู้รับซื้อฝากเมื่อครบ ๖ เดือน ที่ราย นี้เป็นที่มือเปล่า ทั้งจำเลยได้ยอมใช้สิทธิครอบครองอย่างเป็นที่ของจำเลยมานานเกินกว่า ๖ ปีแล้ว จำเลยย่อมได้สิทธิใน ที่พิพาท เพราะการครอบครองตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๐๕/๒๔๙๓.
จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์./