คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้รับใบอนุญาตแบบ ป.5 ให้มีและใช้วัตถุระเบิดในจังหวัดชุมพร โดยซื้อจากจังหวัดพระนคร จำเลยซื้อแล้วนำติดตัวไปจังหวัดสระบุรีก่อนแล้วนำไปจังหวัดชุมพร โดยผ่านจังหวัดพระนครอีก แต่จำเลยถูกจับเสียก่อนในเขตจังหวัดสระบุรี เช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการย้ายวัตถุระเบิดตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ไม่ต้องได้รับอนุญาตให้ย้ายวัตถุระเบิดจากเจ้าพนักงานอีก เพราะเป็นการซื้อโดยได้รับอนุญาตแล้วจะนำไป และใบอนุญาตแบบ ป.5 ก็มิได้กำหนดเงื่อนไขในการนำไปไว้แต่อย่างไร ทั้งไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ในเรื่องนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับใบอนุซญาตให้มีและใช้วัตถุระเบิดเพื่อนำไปใช้ระเบิดหินที่จังหวัดชุมพร แต่จำเลยได้บังอาจขนย้ายวัตถุระเบิดออกจากจังหวัดพระนครนำไปเก็บไว้ที่จังหวัดสระบุรี และจะนำวัตถุระเบิดดังกล่าวจากจังหวัดสระบุรีไปจังหวัดชุมพร โดยจำเลยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๔๓, ๘๐
จำเลยปฏิเสธ
โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้มี ซื้อ และใช้วัตถุระเบิดตามแบบ ป.๕ โดยเจ้าพนักงานอำเภอเมืองชุมพรออกให้ ให้ซื้อวัตถุระเบิดที่จังหวัดพระนครเพื่อนำไปใช้จังหวัดชุมพร จำเลยซื้อแล้วไม่นำไปจังหวัดชุมพรกลับนำไปจังหวัดสระบุรี แล้วจะนำจากจังหวัดสระบุรีไปจังหวัดชุมพร โดยผ่านจังหวัดพระนครอีก ก็ถูกเจ้าพนักงานจับในท้องที่จังหวัดสระบุรี
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ ให้งบสืบพยาน แล้วพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นการขนย้าย เพราะเมื่อซื้อวัตถุระเบิดแล้ว ก่อนนำไปเก็บยังสถานที่อนุญาต จำเลยอาจนำติดตัวไปไหน ๆ ก่อนได้ กฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าจะต้องนำตรงไปทันที ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องย้ายวัตถุระเบิดจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งตามมาตรา ๔๓ แต่เป็นเรื่องซื้อวัตถุระเบิดแล้วจะนำไปยังสถานที่ทำการของจำเลยผู้รับอนุญาต การซื้อโดยได้รับอนุญาตแล้วนำไปเช่นนี้ จึงไม่ต้องได้รับอนุญาตให้ย้ายวัตถุระเบิดจากเจ้าพนักงานอีก เพราะเป็นที่เห็นได้ว่าเมื่อซื้อแล้วจำเลยก็จำต้องนำไป ส่วนเมื่อซื้อแล้วจำเลยจะนำไปอย่างไรนั้น ใบอนุญาตแบบ ป.๕ ที่ออกให้จำเลยเพื่อซื้อวัตถุระเบิดรายนี้หาได้มีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขอย่างใดไว้ไม่ ทั้งไม่มีกำหนดอะไรไว้ว่าจำเลยจะต้องนำไปอย่างไร และไม่มีบทกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ในเรื่องนี้ ฉะนั้น การที่จำเลยนำจากจังหวัดพระนครไปยังจังหวัดสระบุรีก่อน ไม่ตรงไปจังหวัดชุมพรทีเดียวจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา ๔๓ และ ๘๐ ศาลล่างพิพากษายกฟ้องชอบแล้ว พิพากษายืน

Share