คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถ้าฟังว่าโจทก์เป็นญาตที่สนิทของเจ้ามรดกยิ่งกว่าจำเลยแล้ว จำเลยก็ย่อมไม่อาจยกอายุความ มรดก 1 ปี มาตัดฟ้องของโจทก์ได้
(เทียบฎีกาที่ 19/2495)
จำเลยกล่าวอ้างในคำให้การต่อสู้คดีว่า ตนเป็นทายาทโดยพินัยกรรม เพื่อตัดโจทก์ผู้เป็นทายาทโดยธรรมเช่นนี้ จำเลยต้องเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของนายแก้ว นายแก้วมีสวนมะพร้าว ๓ แปลง และไม่เคยทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้ผู้ใด จำเลยมิได้เป็นทายาทโดยธรรม ในชั้นที่จะได้รับมรดกของนายแก้ว แต่ได้ทำพินัยกรรมปลอมนำไปแสดงต่อกรมการอำเภอเกาะสมุย อ้างว่านายแก้วเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกสวนมะพร้าวดังกล่าวให้จำเลย โจทก์ได้ไปคัดค้านไว้ และนำคดีมาฟ้องศาล
จำเลยให้การว่า จำเลยทั้งสองเป็นญาติกับนายแก้ว ๆ ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลย เมื่อนายแก้วตาย จำเลยก็ได้เข้าครอบครองทรัพย์ตามพินัยกรรมตลอดมาโดยโจทก์มิได้เกี่ยวข้องด้วย กับตัดฟ้องว่า คดีโจทก์ขาดอายุความเพราะฟ้องเกิน ๑ ปี นับแต่นายแก้ว เจ้ามรดกถึงแก่กรรม
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลทั้งสองว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของนายแก้วเจ้ามรดก ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาท
ข้อวินิจฉัยของศาลฎีกาในส่วนที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายมีว่า เมื่อฟังว่าโจทก์เป็นญาติสนิทของนายแก้ว เจ้ามรดกยิ่งกว่าฝ่ายจำเลย จำเลยย่อมไม่อาจยกอายุความมรดก ๑ ปี มาตัดฟ้องของโจทก์ได้ (ป.พ.พ. มาตรา ๑๗๕๕ และฎีกาที่ ๑๙/๒๔๙๕)
โจทก์เป็นทายาทอยู่ในอันดับเหนือว่าจำเลย และตัดมิให้จำเลยได้รับทรัพย์รายนี้ตามกฎหมาย เมื่อจำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเป็นทายาทโดยพินัยกรรม ซึ่งฝ่ายโจทก์ปฏิเสธ ประเด็นข้อนำสืบว่าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์พิพาทให้แก่จำเลยและเป็นพินัยกรรมอันแท้จริง จึงตกเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องสืบพิสูจน์ก่อนให้สมข้ออ้างอิง หาใช่เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบก่อนไม่ (ป.วิ.พ. มาตรา ๘๔)

Share