คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 135/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องที่ว่าโจทก์ยกเหตุ 2 ประการขึ้นอ้างในการบอกเลิกการเช่า
โจทก์บอกเลิกการเช่าโดยอ้างเหตุว่าสัญญาหมดอายุ กับจำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า โดยให้เช่าช่วง แม้ในเรื่องเช่าช่วง ขอ้เท็จจริงจะฟังไม่ได้ แต่ฟังได้ว่าสัญญาเช่าหมดอายุแล้ว โจทก์ย่อมบอกเลิกสัญญาได้ และศาลก็ย่อมพิพากษาขับไล่จำเลยเพราะเหตุว่าสัญญาเช่าหมดอายุได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวเลขที่ ๑๒๒๗, ๑๒๒๙ ซึ่งจำเลยเช่าจากผู้แทนของโจทก์ โดยบรรยายเหตุขับไล่ว่า “สัญญาเช่าหมดอายุการเช่าแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าห้องดังกล่าวต่อไป ทั้งจำเลยมิได้เช่าห้องเป็นที่อยู่อาศัยและตัวจำเลยกับครอบครัวก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ ๑๒๒๙/๒ ถนนเจริญกรุงฯ ทั้งปรากฎอีกด้วยว่าจำเลยได้ประพฤติผิดสัญญาเช่าโดยนำห้องเช่าทั้งสองนี้ไปให้นายพกเฮง แซ่ผู่ เช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์จึงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าไปยังจำเลย ดังสำเนาท้ายฟ้อง จำเลยรับทราบแล้วไม่ปฏิบัติตาม…”
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้เช่าช่วง โจทก์ไม่มีอำนาจบอกเลิกสัญญาเช่าเพราะเหตุนี้ได้ แต่สัญญาเช่าครบกำหนดอายุแล้ว จำเลยอยู่ต่อมาโดยโจทก์ก็ไม่ทักท้วง และเมื่อโจกท์ไม่ปรารถนาให้จำเลยอยู่ โจทก์ก็ได้บอกเลิกกับจำเลยชั่วระยะกำหนดชำระค่าเช่าระยะหนึ่งแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจบอกเลิกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๗๐, ๕๖๖ พิพากษาให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อนี้เช่นเดียวกับในชั้นอุทธรณ์ว่า ความมุ่งหมายของโจทก์ในการฟ้องขับไล่ก็เพราะถือว่าจำเลยเป็นผู้ผิดสัญญาเป็นสำคัญประการเดียว เมื่อฟังว่าจำเลยมิได้ให้เช่าช่วง ก็ควรยกฟ้อง โดยมิต้องวินิจฉัยถึงประเด็นเรื่องสัญญาหมดอายุ
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความตามฟ้องย่อมเห็นได้ว่าเหตุที่โจทก์ยกขึ้นอ้างในการบอกเลิกการเช่ากับจำเลยนั้นมี ๒ ประการ คือ ๑. สัญญาเช่าหมดอายุแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่ต่อไป ๒. จำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่าโดยเอาห้องให้เช่าช่วง ฉะนั้น แม้ในเรื่องเช่าช่วง ข้อเท็จจริงจะฟังไม่ได้ แต่ฟังได้ว่าสัญญาเช่าหมดอายุแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ที่ศาลแพ่งพิพากษาขับไล่จำเลยเพราะสัญญาเช่าหมดอายุนั้น ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๗/๒๕๐๒ รูปคดีไม่เหมือนคดีนี้ พิพากษายืน

Share