คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คเป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน จึงเป็นหนังสือซึ่งเป็นสำคัญแก่การตั้งหนี้สิน หรือเป็นหลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้ เลิกล้างหรือโอนหนี้สิน เพราะเช็คนั้น ในเบื้องต้นย่อมเป็นหนังสือตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินแก่ผู้ทรง และผู้สั่งจ่ายก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง และในเบื้องปลาย เมื่อธนาคารได้จ่ายเงินตามคำสั่งของผู้ออกเช็คแล้ว ก็ย่อมเป็นหนังสือหลักฐานแสดงหนี้สินผูกพัน ระหว่างผู้ออกเช็คและธนาคารซึ่งผู้ออกเช็คต้องยอมให้ธนาคารหักเงินที่สั่งจ่ายนั้นจากบัญชีเงินฝากของตน หรือถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเช็คเกินบัญชีเงินฝากของผู้ออกเช็คไป ธนาคารก็ย่อมเรียกร้องเอาจากผู้ออกเช็คได้ เช็คจึงเป็นหนังสือสำคัญตามความหมายของกฎหมายลักษณะอาญาโดยแท้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลอมลายมือชื่อภาษาอังกฤษของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ลงบนเช็คสั่งจ่ายเงินจากธนาคารมิทซุย จำกีด แล้วจำเลยนำเช็คกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคารมิทซุย จำกัด ทำให้ธนาคารมิทซุย จำกัด และจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๒๕, ๒๒๗, ๒๒๔, ๓๐๔, ๗๑, ๖๓
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีผิดฐานใช้เช็คปลอดและฐานฉ้อโกง ตามมาตรา ๒๒๕ ข้อ ๔ มาตรา ๒๒๗ มาตรา ๓๐๔ ให้ลงโทษฐานใช้หนังสือปลอมซึ่งเป็นบทหนัก และให้รวมกระทงลงโทษจำคุก ๓ ปี และให้ใช้เงินธนาคารมิทซุย จำกัด
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ศาลฎีกาเห็นว่า เช็คเป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน จึงเป็นหนังสือ ซึ่งเป็นสำคัญแก่การตั้งหนี้สิน หรือเป็นหลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้ เลิกล้าง หรือโอนหนี้สิน เพราะเช็คนั้น ในเบื้องต้นย่อมเป็นหนังสือตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินแก่ผู้ทรง และผู้สั่งจ่ายเป็นอันสัญญาว่า ถ้าธนาคารไม่ยอมจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง และในเบื้องปลายเมื่อธนาคารได้จ่ายเงินตามคำสั่ง ของผู้ออกเช็คแล้ว ก็ย่อมเป็นหนังสือหลักฐานแสดงหนี้สินผูกพันระหว่างผู้ออกเช็คและธนาคาร ซึ่งผู้ออกเช็คต้องยอมให้ธนาคารหักเงินที่สังจ่ายเช็คไป ธนาคารก็ย่อมเรียกร้องเอาจากผู้ออกเช็คได้ เช็คจึงเป็นหนังสือสำคัญตามความหมายกฎหมายลักษณะอาญาโดยแท้
พิพากษายืน

Share