คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ 2 ปากแล้ว เห็นว่าคดีพอวินิจฉัยแล้ว สั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาเรื่องนี้ ยังไม่ต้องด้วยกฎหมายและข้อเท็จจริง มิได้อุทธรณ์คัดค้านว่า ศาลชั้นต้นงดสืบพยานเป็นการไม่ชอบ และมิได้ขอให้ดำเนินการสืบพยานต่อไป ดังนี้ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่พิจารณาในข้อที่ว่า การงดสืบพยานเป็นการชอบหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกนาของโจทก์จึงขอให้ห้ามและเรียกค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่า นายจันบุตรโจทก์ เอานาพิพาทมาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ ๒ ปากแล้ว สั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลย พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องกับที่พิพาท และให้ค่าสินไหมทดแทน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว เห็นว่า จำเลยมิได้อุทธรณ์คัดค้านว่า ศาลชั้นต้นงดสืบพยานเป็นการไม่ชอบและมิได้ขอให้ดำเนินการสืบพยานต่อไป เป็นแต่ขอให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์จึงไม่พิจารณาว่า การงดสืบพยานเป็นการชอบหรือไม่ จึงไม่ต้องพิจารณาที่จะให้ศาลชั้นต้นสืบพยานอีกต่อไป แล้ววินิจฉัยข้ออุทธรณ์ของจำเลย คงพิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่าในคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลย กล่าวแต่เพียงว่า ศาลชั้นต้นพิจารณา พิพากษาเรื่องนี้ยังไม่ต้องด้วยกฎหมายและข้อเท็จจริงเท่านั้น หาได้ยกขึ้นอ้างอิงว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างใดให้ชัดเจนไม่ ทั้งไม่ได้มีคำขอให้ดำเนินการสืบพยานต่อไปใหม่อีกแต่อย่างใดด้วย ที่ศาลอุทธรณ์ไม่พิจารณาปัญหาข้อนี้ให้ จึงเป็นการชอบแล้วส่วนในปัญหาข้ออื่น ๆ ก็ เห็นว่าศาลอุทธรณ์ พิพากษาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share