คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุตรว่า มารดาเป็นคนไม่มีศีลธรรมยกที่ดินให้แล้วกลับไม่ให้ ซ้ำยังขับไล่ไม่ให้มารดาอยู่ร่วมบ้านไม่ปรากฎว่า
มารดามีทรัพย์สมบัติอะไรเหลืออยู่ มารดาต้องไปอาศัยบุตรคนอื่นซึ่งยากจนกว่าบุตรคนแรก ส่วนบุตรคนแรกนั้น
ยังสามารถอุปการะให้สิ่งของแก่มารดาได้ แต่ก็ปฏิเสธเสีย ไม่ยอมให้อุปการะแก่มารดา ดังนี้ คดีต้องด้วย ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 531 มารดามีสิทธเรียกทรัพย์ที่ให้คืนได้.

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ได้ยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยผู้เป็นบุตร แล้วจำเลยประพฤติเนรคุณ โจทก์จึงฟ้องเรียกที่ดินคืน
จำเลยต่อสู้ว่า เป็นที่ดินที่จะลยกับสามีร่วมกันสร้างขึ้นเอง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนนาพิพาทแก่โจทก์.
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยกที่พิพาทให้แก่จำเลยจริง ส่วนข้อโต้เถียงที่ว่าจำเลยได้ด่าว่าหมิ่นประมาทโจทก์อย่าง
ร้ายแรงหรือไม่นั้น คำพยานฟังได้ว่า จำเลยได้ว่าโจทก์เป็นคนไม่มีศีลธรรม ยกที่ดินให้จำเลยแล้วกลับไม่ให้ ซ้ำจำเลย
ยังขับไล่ไม่ให้โจทก์อยู่ร่วมบ้าน ไม่ปรากฎว่าดจทก์มีทรัพย์สมบัติอะไรเหลืออยู่ โจทก์ต้องไปอาศัยบุตรคนอื่น ซึ่งยากจน
กว่าจำเลย จำเลยยังสามารถอุปการะให้สิ่งของจำเลยแก่โจทก์ได้ แต่จำเลยก็ปฏิเสธเสีย ไม่ยอมให้อุปการะแก่โจทก์เช่น
นี้ คดีต้องด้วย ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๕๓๑ โจทก์เรียกทรัพย์ที่ให้คือนาพิพาทคืนได้
คงพิพากษายืน.

Share