แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายกับจำเลยไปช่วยเขาไถนาด้วยกัน เมื่อไถนาเสร็จแล้วมีการเลี้ยงสุราอาหาร ผู้ตายกินอิ่มแล้วเดินไปที่จำเลย ตีศีร์ษะจำเลย 2 ทีแล้ววิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ไปทันที่คูน้ำข้างถนน เข้าปล้ำกัน ปรากฎว่าผู้ตายมีบาดแผลถูกแทง 6 แห่ง เป็นบาดแผลสาหัส 2 แห่ง ผู้ตายขาดใจตายในวันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยกระทำไปโดยบรรดาลโทษะ หาใช่เป็นเรื่องป้องกันไม่
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุก 15 ปี ลดโทษ-ตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบรรดาลโทษะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา
๒๔๙
จำเลยต่อสู้ว่าป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ ให้จำคุก ๑๕ ปี ลดตามมาครา ๕๙ หนึ่งในสาม คงเหลือโทษจำคุก ๑๐ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยกระทำผิดในขณะบรรดาลโทษะ จึงลดโทษให้ตามมาตรา ๕๕ กึ่งหนึ่ง กับลดตามมาตรา ๕๙ หนึ่งในสามคงเหลือโทษจำคุก ๕ ปี
จำเลยฎีกาว่า ได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว คดีได้ความว่าในวันเกิดเหตุ นายแดงผู้ตายกับจำเลยไปช่วยนายเคลื่อนไถนาเมื่อไถนาเสร็จแล้ว มีการเลี้ยงสุราอาหาร ผู้ตายกินอิ่มแล้วเดินไปที่จำเลย ตีศีร์ษะจำเลย ๒ ที แล้ววิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ไปทันที่คูน้ำข้างถนน เข้าปล้ำกัน จำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย ปรากฎว่าผู้ตายมีบาดแผลถูกแทง ๖ แห่ง เป็นบาดแผลสาหัส ๒ แห่ง ผู้ตายขาดใจตายในวันนั้น
กรณีแสดงให้เห็นว่า จำเลยกระทำไปโดยบรรดาลโทษะหาใช่เป็นเรื่องป้องกันไม่
จึงพิพากษายืน