แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีหน้าที่เฝ้าไม้ซุงแล้วถูกใช้ให้คุมแพซุงล่องลงมาระหว่างทางจำเลยได้ลักไม้ซุงที่คุมไป จำเลยย่อมมีผิดฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง เพราะผู้อื่นเป็นผู้มีหน้าที่ตรวจควบคุมดูแลไม้ที่ล่องโดยตรง ไม่ใช่หน้าที่ของจำเลยจำเลยไม่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาหรือจัดการหรือใช้สอยโดยฉะเพาะในการนี้
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๔ ถึงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๔๙๔ จำเลยได้ลักไม้ซุง ๖ ต้นราคา ๑๕,๓๐๐ บาท ของบริษัทอิสเอเซียติกจำกัด ซึ่งอยู่ความครอบคอรงดูแลรักษาาของนายวงษ์ ใจเอื้อ ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยไป ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
อัยการโจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๙๔ (๕) จำคุก ๒ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายสงค์ พี่ของจำเลยทำงานอยู่กับบริษัทอิสเอเซียติดจำกัด มีหน้าที่ควบคุมดูแลรักษาไม้ซุงสักในอู่ของบริษัทฯ ที่ปากคลองรังสิต จำเลยเป็นลูกจ้าง เฝ้าอยู่กับนายวงศ์ในงบเงินของบริษัทฯ นายวงศ์มีหน้าที่จัดปล่อยแพซุงด้วย โดยจ้างนายเสงี่ยม เรืองทอง เป็นผู้คุมการล่อง นายเสงี่ยมป่วย จึงให้จำเลยคุมการล่องแพแทนโดยนายวงศ์ ไม่ทราบเรื่อง จำเลยเป็นผู้ไปว่าจ้างเลื่อยไม้ของกลาง ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยร่วมเป็นตัวการเอาไม้ของกลางไปที่โรงเลื่อย จำเลยจึงมีผิดฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง เพราะนายวงศ์มีหน้าที่ตรวจควบคุมดูแลไม้ที่ล่องโดยตรง ไม่ใช่หน้าที่จำเลย จำเลยมิได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาหรือจัดการหรือใช้สอย โดยฉะเพาะในการนี้ จำเลยจึงควรมีความผิดรับโทษตามที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดมา แต่จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนจึงพิพากษาแก้โทษลดให้ตาม ม.๕๙ ลง ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑ ปี ๔ เดือน