คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2140/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุคคลจะพึงรับโทษตาม ก.ม. ลักษณะอาญา ม.123 จะต้องประกอบด้วยองค์ความผิดคือ (1) แสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานและ (2) รับหรือยอมให้เขาสัญญาว่าจะให้ลาภสักการแก่ตัวหรือแก่ผู้อื่น เพื่อที่จะไปวิงวอนว่ากล่าวให้เจ้าพนักงานให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้ใด และจะให้และมิให้เจ้าพนักงานทำการในหน้าที่อย่างใด ๆ
ถ้าฟ้องขาดความข้อ (2) ก็เป็นฟ้องที่บรรยายไม่ครบองค์ความผิดลงโทษจำเลยไม่ได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2500)

ย่อยาว

เรื่อง แสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาท
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับสารวัตร รองสารวัตรและตำรวจสถานีตำรวจท่าข้าม ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายและชักชวนให้บรรดาเจ้าของเรือลากจูงในคลองมหาชัยเป็นสมาชิก จำเลยจะได้เก็บเงินจากสมาชิกเหล่านี้ร้อยละ ๑๐ ของรายได้ทั้งหมดของเรือลากจูงนั้น ๆ เพื่อนำไปให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจดังกล่าว แล้วจำเลยจะวิงวอนว่ากล่าวให้เจ้าพนักงานตำรวจละเว้นมิให้จับกุมบรรดาสมาชิกเมื่อทำผิดกฎหมาย และเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวจำเลยได้หมิ่นประมาทใส่ความ ร.ต.อ.วัณ สารวัตรตำรวจสถานีตำรวจท่าข้าม ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย โดยกล่าวต่อหน้าคนหลายคนว่าจำเลยเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานดังกล่าว และจะเรียกเก็บเอาเงินจากเจ้าของเรือลากจูงร้อยละ ๑๐ และจะนำไปให้เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อให้ละเว้นไม่จับกุมเมื่อเจ้าของเรือลากจูงทำผิดกฎหมาย ทำให้เจ้าพนักงานดังกล่าวเสียชื่อเสียง และอาจทำให้คนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๑๑๖,๑๒๓,๒๘๒
จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลแขวงธนบุรีเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานและยอมให้เขาสัญญาว่าจะให้ลาภสักการแก่มัน เพื่อมันจะไปวิงวอนว่ากล่าวให้เจ้าพนักงานทำการตามหน้าที่ จึงมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๑๒๓ ส่วนที่โจทก์หาว่าจำเลยหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญา ม. ๑๑๖,๒๘๒ นั้น จำเลยหาได้เจตนาหมิ่นประมาทไม่ จึงไม่มีความผิด พิพากษาลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๒๓,๕๙ จำคุก ๓ เดือน
จำเลยอุทธรณ์ใน++++++++++
ศาลอุทธรณ์เห็นว่ายังไม่มีผู้ใดให้เงินหรือสัญญาจะให้เงินแก่จำเลย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานพยายามแสดงตนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๑๒๓ ประกอบด้วย ม.๖๐ และลดรับสารภาพลงกึ่งหนึ่งตาม ม.๕๙ แล้วจำคุก ๒ เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ ๓ ปี
โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่าตามฟ้องและคำรับของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๑๒๓
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่าบุคคลจะพึงรับโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๑๒๓ จะต้องประกอบด้วยองค์ความผิดคือ
๑. แสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน และ
๒. รับหรือยอมให้เขาสัญญาว่าจะให้ลาภสักการแก่ตัวหรือแก่ผู้อื่น เพื่อที่จะไปวิงวอนว่ากล่าวให้เจ้าพนักงานให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้ใด และจะให้และมิให้เจ้าพนักงานทำการในหน้าที่อย่างใด ๆ
ตามฟ้องขาดความข้อ (๒) จึงเห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องไม่ครบองค์ความผิดลงโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง.

Share