คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องคดีที่ดินมรดก โดยอ้างว่าโจทก์เป็นทายาทผู้มีส่วนได้รับร่วมกับจำเลยด้วย แต่จำเลยไปใส่ชื่อจำเลยในโฉนดเสียแต่ผู้เดียว โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องว่าขอให้ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินนั้นด้วย ต่อมาในระหว่างคดีปรากฏว่าจำเลยได้โอนขายที่พิพาทนั้นไปยังบุคคลที่สาม ดั่งนี้ เป็นอันว่า วัตถุที่โจทก์เรียกร้องนั้นไม่มีที่จำเลย จึงเป็นการพ้นวิสัยที่ศาลจะพิพากษาบังคับให้ตามคำขอท้ายฟ้อง และจะพิพากษาว่า โจทก์มีส่วนกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทซึ่งเป็นของคนอื่นโดยสิ้นเชิงแล้วก็ย่อมไม่ได้ จึงต้องพิพากษายกฟ้อง
คดีที่ต้องยกฟ้องเพราะจำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้พ้นคดีไปเสียนั้นไม่ตัดสิทธโจทก์ที่จะว่ากล่าวฟ้องร้องต่อไปอีก
จำเลยดำเนินคดีให้โจทก์ต้องถูกยกฟ้องเพราะจำเลยโอนทรัพย์พิพาทไปยังบุคคลอื่นเสียก่อนเช่นนี้ ควรให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมแทนโจทก์

ย่อยาว

โจทก์จำเลยเป็นบุตรนางก้อย โจทก์ฟ้องว่านางก้อยซื้อนาป่าไว้ ๑ แปลง นางก้อยถึงแก่กรรมโจทก์เข้าครอบครองถางป่าเป็นนาให้ผู้มีชื่อเช่าทำ จำเลยไปขอรับมรดกเสียแต่ผู้เดียว จึงขอให้ศาลบังคับใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดตามส่วนของโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า นานี้มีโฉนดตราจองแล้ว ซื้อแล้ว นางก้อยยกส่วนของนางก้อยให้จำเลย ยังไม่ทันโอนโฉนดนางก้อยก็ตาย จำเลยครอบครองมาและไปขอรับมรดก โจทก์ก็ไม่คัดค้านและไม่เคยเข้าเกี่ยวข้อง
บุตรนางก้อยอีก ๓ คนร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม จำเลยต่อสู้ว่าผู้ร้องไม่เคยเข้าเกี่ยวข้อง
ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ผู้ร้องทั้ง ๓ ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง มาแต่ตัวโจทก์ พยานอื่นก็ไม่มา ศาลสืบโจทก์ได้หนึ่งปาก แล้วสั่งงดสืบพยานอื่นของโจทก์ คงให้สืบพยานจำเลย สืบแล้วปรากฎว่า จำเลยได้โอนขายที่ดินโฉนดนี้ไปแล้วภายหลังที่โจทก์ฟ้องคดีนี้เกือบเดือน ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีนี้ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริง เพราะที่พิพาทได้เปลี่ยนกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนเป็นของผู้อื่นไปแล้ว ศาลไม่อาจพิพากษาตามคำขอของโจทก์ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และผู้ร้องสอดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้ที่พิพาทโอนไปแล้ว แต่ก็อาจติดตามเอาได้ สมควรต้องชี้ขาดข้อเท็จจริงว่าโจทก์มีสิทธิรับมรดกที่พิพาทเพียงใดหรือไม่ก่อน จึงให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ตามประเด็นที่พิพาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อที่พิพาทได้โอนโฉนดไปเป็นของคนอื่นเสียแล้ว ก็เป็นอันว่าวัตถุที่โจทก์เรียกร้องนั้น ไม่มีที่จำเลย จึงเป็นการพ้นวิสัยที่ศาลจะพิพากษาบังคับให้ตามที่โจทก์ฟ้องขอในคดีนี้ได้ และจะพิพากษาว่าโจทก์มีส่วนกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทซึ่งเป็นของคนอื่นโดยสิ้นเชิงแล้วก็ย่อมไม่ได้ ข้อที่ว่าการโอนที่พิพาทไปยังบุคคลที่ ๓ ในระหว่างคดีเป็นการมิชอบและยังมีทางติดตามเอาคืนได้นั้น ไม่มีประเด็นวินิจฉัยในชั้นนี้ เพราะโจทก์ยังมิได้จัดการประการใดจึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้อง แต่โดยเหตุที่คดีของโจทก์ต้องยกฟ้องเพราะ จำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้พ้นคดีไปเสีย จึงไม่ให้คำพิพากษานี้ตัดสิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวในเรื่องนี้ต่อไปอีก ให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมในคดีเรื่องนี้แทน นายสน รัศมี โจทก์จงครบ ส่วนค่าทนายความและค่าธรรมเนียมของโจทก์ร่วมและของจำเลยให้เป็นพับ

Share