คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งทางทะเล เนื่องจากของที่ขนส่งเปียกน้ำ โดยระบุเหตุที่ทำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหายเกิดจากการประมาทเลินเล่อของนายเรือผู้ควบคุมดูแลยานพาหนะ และส่งสำเนากรมธรรม์มาด้วย ซึ่งตามกรมธรรม์ ข้อ 9 ระบุว่า บริษัทไม่ต้องรับผิดจากภัยอันเนื่องจากการเสียหาย ฯลฯ อันเกิดแต่การเลินเล่อของนายเรือจำเลยมิได้ยกกรมธรรม์ ข้อ 9 ขึ้นมาต่อสู้ เพื่อให้พ้นความรับผิด ก็ไม่มีประเด็นในข้อนี้ ดังนี้ ศาลไม่มีอำนาจหยิบยกกรมธรรม์ ข้อ 9 นั้น ขึ้นวินิจฉัยให้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2502)
สัญญาประกันภัยการขนส่งทางทะเลระบุว่า ประกันภัยน้ำย่อมกินความถึงการเปียกน้ำทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเลหรือน้ำจืด ซึ่งทำให้ทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยเสียหาย
อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งทางทะเล ไม่มีบทบัญญัติไว้ในกฎหมายไทย แต่นำเอาอายุความรับขนตาม มาตรา 624 ป.พ.พ. มาใช้ปรับแก่คดีได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ ผู้รับประกันวินาศภัย และจำเลยที่ ๒ ผู้รับขนส่งทางทะเล เรียกค่าเสียหายเนื่องจากยาฉุนของโจทก์ที่ส่งไปสิงคโปร์เปียกน้ำเป็นเงิน ๒๔,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่า จำเลยรับประกันภัยเฉพาะเปียกน้ำทะเลเท่านั้น ยาฉุนของโจทก์เปียกน้ำโดยท่อน้ำจืดในเรือแตก
จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่า ถ้ายาฉุนของโจทก์เปียกน้ำจริง ก็คงเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของนายเรือและฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ต้องรับผิด และเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ ๒ และฟ้องของโจทก์เฉพาะจำเลยที่ ๒ ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้อง นอกนั้นยืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องของโจทก์ระบุเหตุที่ทำให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหาย เกิดจากการประมาทเลินเล่อของนายเรือผู้ควบคุมดูแลยานพาหนะ และตามกรมธรรม์ที่ส่งต่อศาล ข้อ ๙ ว่า บริษัทไม่ต้องรับผิดจากภัยเนื่องจากการเสียหายอันเกิดแต่การเลินเล่อของนายเรือ ฝ่ายจำเลยไม่ยกกรมธรรม์ ข้อ ๙ ขึ้นต่อสู้ ศาลฎีกาวินิจฉัย โดยที่ประชุมใหญ่ว่า จำเลยที่ ๑ มิได้ยกกรมธรรม์ ข้อ ๙ ขึ้นมาต่อสู้เพื่อให้พ้นความรับผิด ก็ไม่มีประเด็นในข้อนี้ ศาลจะหยิบยกกรมธรรม์ ข้อ ๙ นั้น ขึ้นวินิจฉัยไม่ได้
ตามกรมธรรม์การขนส่งทางทะเลรายนี้ ระบุว่าประกันภัยเปียกน้ำไม่ได้ระบุว่าเป็นน้ำทะเลหรือน้ำเฉยๆ ฉะนั้น ยาฉุนของโจทก์เปียกน้ำจืดซึ่งรั่วจากท่อใหญ่ในเรือแตก จำเลยที่ ๑ ผู้รับประกันภัยจึงต้องรับผิด
เรื่องอายุความนั้น โจทก์จ้างจำเลยที่ ๒ รับขนยาฉุนของโจทก์ไปส่งที่สิงค์โปร์โดยทางเรือเป็นการขนส่งนอกน่านน้ำไทย ตาม ป.พ.พ. มาตรา๖๐๙ ให้บังคับตามกฎหมายและข้อบังคับว่า ด้วยการขนของทางทะเลก็ดี แต่ตามกฎหมายว่าด้วยการรับขนส่งทางทะเลไม่มีบทบัญญัติไว้ในกฎหมายไทย ในเรื่องอายุความรับขนตามมาตรา ๖๒๔ บัญญัติว่า ในข้อความรับผิดชอบของผู้ขนส่งในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายนั้น ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่ส่งมอบ ฯลฯ เว้นแต่ในกรณีทุจริต ศาลฎีกาเห็นว่า บทกฎหมายนี้ยกขึ้นปรับกับข้อโต้เถียง เรื่องอายุความคดีนี้ได้ และเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๒ พ้นกำหนด๑ ปี นับแต่วันส่งมอบ และกรณีไม่มีการทุจริตคดีขาดอายุพิพากษายืนความแล้ว
พิพากษายืน

Share